xs
xsm
sm
md
lg

“สุภา” เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังข้าวรัฐบาล กังขา “พาณิชย์” แจ้งเพิ่ม 2.9 ล้านตัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รองปลัด “คลัง” เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังข้าวของรัฐบาล โดยเฉพาะการตรวจสอบข้าวตามที่ “พาณิชย์” แจ้งมาเพิ่มกว่า 2.9 ล้านตัน เนื่องจากเป็นจำนวนที่มาก และมีนัยสำคัญในการลงบันทึกบัญชี

น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำสินค้าเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้รอให้กระทรวงพาณิชย์ และคณะกรรมการที่ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดัง หรือสต๊อกข้าวของรัฐบาล ประสานมาเพื่อจะได้ร่วมลงสังเกตการณ์ด้วย โดยเฉพาะการตรวจสอบข้าวตามที่กระทรวงพาณิชย์แจ้งมาเพิ่มกว่า 2.9 ล้านตัน เนื่องจากเป็นจำนวนที่มาก และมีนัยสำคัญในการลงบันทึกบัญชี

น.ส.สุภา กล่าวว่า จะขอให้คณะกรรมการตรวจสอบโกดังข้าวลงพื้นที่ปูพรมตรวจวันเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งมีโรงสีประมาณ 1,500 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการจำนำข้าว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการขนถ่ายข้าวออกจากโรงสี เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ข้าวจำนวนดังกล่าวกระจายอยู่ตามโรงสีทั่วประเทศ และตกสำรวจซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้

ส่วนการปิดบัญชีข้าวนาปีฤดูกาลผลิต 2555/2556 ที่คณะอนุกรรมการฯ สอบถามตัวเลขข้าวในสต๊อกก่อนหน้านี้นั้น ได้รับแจ้งว่า มีข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการ 7 ล้านตัน หากแปรสภาพเป็นข้าวสารจะได้ประมาณร้อยละ 61 เป็นข้าวกว่า 4 ล้านตัน แต่ได้รับแจ้งว่ามีข้าวในสต๊อกเพียง 1.7 ล้านตัน หรือร้อยละ 24 เท่านั้น หรือหายไปเกือบ 3 ล้านตัน จึงให้พาณิชย์ชี้แจงมา และสรุปตัวเลขขาดทุนไว้เบื้องต้นประมาณ 80,000 ล้านบาท แต่ทางกระทรวงพาณิชย์ไม่รับตัวเลขดังกล่าว และแจ้งเพิ่มประมาณข้าวเปลือกที่อยู่ระหว่างสีแปรอีก 2.9 ล้านตัน ทางคณะอนุกรรมการฯ ก็ไม่รับตัวเลขดังกล่าวเช่นกัน เพราะตามมาตรฐานบัญชีถือเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่แค่ไม่กี่ตัน และที่น่าจับตาคือ ตัวเลขขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่ระบุว่า ยังตกค้างอีกกว่า 2.5 ล้านตัน และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) อีกประมาณ 200,000 ตัน

น.ส.สุภา กล่าวอีกว่า วันที่ 19 มิถุนายนนี้ คณะอนุกรรมการฯ จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อทบทวนตัวเลขขาดทุนในการปิดบัญชีข้าวนาปีฤดูกาลผลิต 2555/2556 ที่ขาดทุน 80,000 ล้านบาทดังกล่าว โดยหากรวมตัวเลขข้าวเพิ่มอีกเกือบ 3 ล้านตัน จะคิดเป็นมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท เมื่อคำนวณราคาขายวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาแล้วจะทำให้ขาดทุนไม่ถึง 60,000 ล้านบาท ส่วนที่กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า กระทรวงการคลัง ขีดเส้นไม่ให้ขาดทุนเกิน 70,000-100,000 ล้านบาทต่อปีนั้น ไม่ได้เป็นข้อกำหนด หรือข้อเสนอของกระทรวงคลัง แต่กระทรวงพาณิชย์เห็นตัวเลขขาดทุนปี 2554/2555 แล้ว จึงเห็นว่าควรจะลดการขาดทุนลง ซึ่งแนวทางการปรับลดราคาจำนำเหลือ 12,000 บาทต่อตัน และจำกัดปริมาณ หรือมูลค่าไม่เกิน 500,000 บาทต่อรายนั้น น่าจะช่วยลดการขาดทุน และภาระงบประมาณที่ใช้ในการทำโครงการปี 2556/2557 แต่อาจส่งผลให้ราคาขายในสต๊อกเดิมปี 2554/2555 และ 2555/2556 ที่จะขายออกไปนั้นมีราคาลดลงตามราคาตลาดก็จะยิ่งส่งผลให้ขาดทุนมากกว่าที่ปิดบัญชีไว้เดิม 130,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น