ข่าวดีวัดกับแรงขายฝรั่ง
ตลาดหุ้นส่งท้ายสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ฟื้นคืนสู่ความคึกคัก เนื่องจากมีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันโหมเข้ามาทำให้ดัชนีดีดตัวแรง แต่ต่างชาติยังขายหนักอยู่ การฟื้นตัวจึงยังเปราะบาง และอาจเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้ โดยดีดตัวกลับเพียงวันเดียวก่อนจะรูดหนัก 2 วันติด อย่างไรก็ตาม ต้นสัปดาห์นี้ก็มีปัจจัยบวกเข้ามารออยู่ เพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปขยับขึ้นแรง
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,516.24 จุด เพิ่มขึ้น 26.03 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 52,002 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,557 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อกว่า 4,100 ล้านบาท
การฟื้นตัวเมื่อวันศุกร์ไม่ใช่สัญญาณการกลับสู่ขาขึ้นแน่ แต่เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปดีดตัวแรงเมื่อวันศุกร์ ซึ่งจะส่งผลกระตุ้นทางจิตวิทยา และอาจทำให้ตลาดดีดตัวต่อเนื่องได้ อย่างไรก็ตาม แรงขายของต่างชาติยังหนักหน่วงอยู่จึงต้องวัดใจกันว่าระหว่างข่าวดีจากภายนอกกับแรงขายของต่างชาติ นักลงทุนจะให้น้ำหนักจุดไหนมากกว่ากัน
แต่เชื่อว่านักลงทุนบางส่วนคงเตรียมรอจังหวะขายมากกว่า เพราะแรงซื้อที่ผลักดันดัชนีให้ดีดขึ้นเป็นแรงซื้อที่ไม่มั่นคง เพราะนักลงทุนสถาบันคงมีเงินจำกัด ไม่สามารถซื้อต่อเนื่องระยะยาวได้ จึงจ้องขายทำกำไรเมื่อหุ้นปรับตัวขึ้น ซึ่งต้องรประเมินว่าจะมีแรงซื้อจากส่วนไหนเข้ามาต้านการขายทำกำไรหรือไม่ และนักลงทุนต่างชาติยังจะขายหนักต่อหรือเปล่า
เพราะถ้าต่างชาติยังขายหนักอยู่ ตลาดดีดตัวต่อวันนี้ น้ำหนักน่าจะโน้มเอียงไปทางขายทำกำไรมากกว่าจนดัชนีอาจดีดตัวได้ไม่แรง หรืออาจพักฐานลงก็ได้
ตลาดหุ้นส่งท้ายสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ฟื้นคืนสู่ความคึกคัก เนื่องจากมีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันโหมเข้ามาทำให้ดัชนีดีดตัวแรง แต่ต่างชาติยังขายหนักอยู่ การฟื้นตัวจึงยังเปราะบาง และอาจเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้ โดยดีดตัวกลับเพียงวันเดียวก่อนจะรูดหนัก 2 วันติด อย่างไรก็ตาม ต้นสัปดาห์นี้ก็มีปัจจัยบวกเข้ามารออยู่ เพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปขยับขึ้นแรง
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,516.24 จุด เพิ่มขึ้น 26.03 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 52,002 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,557 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อกว่า 4,100 ล้านบาท
การฟื้นตัวเมื่อวันศุกร์ไม่ใช่สัญญาณการกลับสู่ขาขึ้นแน่ แต่เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปดีดตัวแรงเมื่อวันศุกร์ ซึ่งจะส่งผลกระตุ้นทางจิตวิทยา และอาจทำให้ตลาดดีดตัวต่อเนื่องได้ อย่างไรก็ตาม แรงขายของต่างชาติยังหนักหน่วงอยู่จึงต้องวัดใจกันว่าระหว่างข่าวดีจากภายนอกกับแรงขายของต่างชาติ นักลงทุนจะให้น้ำหนักจุดไหนมากกว่ากัน
แต่เชื่อว่านักลงทุนบางส่วนคงเตรียมรอจังหวะขายมากกว่า เพราะแรงซื้อที่ผลักดันดัชนีให้ดีดขึ้นเป็นแรงซื้อที่ไม่มั่นคง เพราะนักลงทุนสถาบันคงมีเงินจำกัด ไม่สามารถซื้อต่อเนื่องระยะยาวได้ จึงจ้องขายทำกำไรเมื่อหุ้นปรับตัวขึ้น ซึ่งต้องรประเมินว่าจะมีแรงซื้อจากส่วนไหนเข้ามาต้านการขายทำกำไรหรือไม่ และนักลงทุนต่างชาติยังจะขายหนักต่อหรือเปล่า
เพราะถ้าต่างชาติยังขายหนักอยู่ ตลาดดีดตัวต่อวันนี้ น้ำหนักน่าจะโน้มเอียงไปทางขายทำกำไรมากกว่าจนดัชนีอาจดีดตัวได้ไม่แรง หรืออาจพักฐานลงก็ได้
