EUREKA มั่นใจรายได้ปีนี้ แตะ 400 ล้านบาท คาดเติบโต 30% จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ เผยปัจจุบันมีงานในมือเพิ่มเป็น 200 ล้านบาท หลังรับออเดอร์เข้าใหม่อีก 100 ล้านบาท พร้อมตั้งงบลงทุนระยะยาวถึงปี 2558 ไว้ที่ประมาณ 80 ล้านบาท ครึ่งปีหลังอยู่ระหว่างเจรจารับงาน Biglot จากค่ายรถโตโยต้า คาดสรุปทันไตรมาส 4
นายนรากร ราชพลสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเรกา ดีไซน์ หรือ EUREKA กล่าวว่าบริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตในอัตราเฉลี่ยที่ 30% จากปีก่อนโดยคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 306.3 ล้านบาท โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากผู้ประกอบการค่ายผลิตรถยนต์มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ทำให้มีงานในมือเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในไตรมาส 4 ปีนี้
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ระยะยาว 3 ปีข้างหน้า ภายในปี 2558 จะมีรายได้เติบโตเฉลี่ยที่ปีละ 30% พร้อมทั้งประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเติบโตดีเนื่องจากผู้ประกอบการค่ายรถยนต์หลายค่ายย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทยเพื่อลดต้นทุน พร้อมกันนี้ คาดผลประกอบการในไตรมาส 2 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 69 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.6 ล้านบาท ทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้ามีรายได้ในแต่ละไตรมาสอยู่ที่ 100 ล้านบาท ทำให้ทั้งปีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 400 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลบวกจากอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศที่ขยายตัวจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่อยู่ในขั้นตอนการผลิต และทยอยส่งมอบ ประกอบกับบริษัทฯ ได้รับออเดอร์เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 จาก 3 ค่ายรถยนต์ คือ บริษัท ฮอนด้าออโตโมบิล (ประเทศไทย) บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ (ประเทศไทย) และบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากผู้ประกอบการยานยนต์มีมูลค่า 100 ล้านบาท แบ่งเป็นจากมิตซูบิชิ มูลค่า 50 ล้านบาท จากไอซิน มูลค่า 30 ล้านบาท และฮอนด้า มอเตอร์ไซเคิล มูลค่า 24 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้
ส่วนเงินลงทุน บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนระยะยาว 3 ปี ไว้ที่ 70-80 ล้านบาท โดยจะนำมาใช้ในปีนี้ 30 ล้านบาท เพื่อลงทุนในระบบไอที ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนใช้ในเครื่องจักรใหม่ ซึ่งจะใช้ในปี2557 และ 2558 ตามลำดับ อีกทั้งบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจารับงานใหม่กับผู้ประกอบการรถยนต์จากค่ายรถโตโยต้า ซึ่งมีมูลค่างานมากพอสมควร ซึ่งโตโยต้ากำลังจะออกรถยนต์กระบะรุ่นใหม่ในปีหน้า แต่ทั้งนี้คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เจรจากับยามาฮ่าในประเทศอินโดนีเซีย และบริษัทมารูติ ซูซูกิ ในประเทศอินเดีย เพื่อรับงานใหม่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยมูลค่าได้ เพราะอยู่ในช่วงการเสนอราคา แต่ก็คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้เช่นกัน ซึ่งหากบริษัทฯ เจรจาสำเร็จคาดว่าจะส่งมอบงานได้ในปีหน้า คาดยอดขายในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากบริษัทฯ เจรจากับลูกค้าอีกหลายราย