xs
xsm
sm
md
lg

KTC ปลื้มสินเชื่อบุคคลทะลุเป้า เปิดแคมเปญ “ไร้ดอกเบี้ย 5 ปี” ลุยต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เคทีซีเผยสินเชื่อบุคคลยังโตต่อเนื่องตามเศรษฐกิจ มั่นใจทั้งปีสูงกว่าเป้าไม่ต่ำกว่า 10% ล่าสุด ออกแคมเปญลุ้น “ไร้ดอกเบี้ย...นานถึง 5 ปี” ยันช่วยแบ่งเบาภาระลูกหนี้

น.ส.สุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) กล่าวว่า ทิศทางสินเชื่อส่วนบุคคลในช่วงไตรมาส 2 นั้น น่าจะยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวได้ดี และคาดว่ายอดคงค้างสินเชื่อบุคคลของเคทีซีจะเติบโตได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% หรือมียอดคงค้างที่ระดับ 13,850 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดสินเชื่อฟิกซ์ โลน 700 ล้านบาท และสินเชื่อพร้อมใช้ 13,150 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา มียอดคงค้าง 12,345 ล้านบาท

“ปีนี้เราตั้งเป้าเติบโตไว้ 10% แต่ก็คาดว่าจะโตได้เกินเป้าประมาณ 10% จากแคมเปญต่างๆ ที่ออกมาได้ผลตอบรับที่ดี ตอบโจทย์ความต้องการผู้ถือบัตรได้ดี”

ส่วนการใช้จ่ายที่แนวโน้มลดลงคงจะไม่กระทบเคทีซีมากนัก ที่จะต้องจับตาดูก็จะเป็นปัจจัยทางการเมือง นอกจากนี้ บริษัทยังมีระบบติดตามหนี้ที่ดี โดยปัจจุบันมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ระดับ 2.7% และคาดว่าทั้งปีจะไม่เกิน 3% ขณะที่อัตราผิดนัดชำระหนี้ 5.56% จากทั้งระบบที่อยู่ประมาณ 7-8%

ล่าสุด บริษัทได้ออกแคมเปญ “ไร้ดอกเบี้ย นานถึง 5 ปีกับเคทีซี แคช รีโวล์ฟ” ที่จะเปิดให้สมาชิกสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี แคช รีโวล์ฟ” (KTC CASH Revolve) ได้ลุ้นใช้เงินฟรีแบบไร้ดอกเบี้ย นานสูงสุดถึง 5 ปี ได้ถึง 3 รอบ รวมทั้งสิ้น 213 รางวัล ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 กันยายน 2556 เพียงลงทะเบียนผ่าน SMS หรือลงทะเบียนผ่าน www.ktc.co.th (โปรโมชันไร้ดอก) และมียอดเงินต้นคงค้างเพิ่มขึ้นทุก 2,000 บาท เทียบกับรอบบัญชีที่ผ่านมา และคงค้างติดต่อกันอย่างน้อย 15 วัน จนถึงวันสรุปรอบบัญชี จะได้รับ 1 สิทธิลุ้นเป็นผู้โชคดีชิงรางวัล ได้แก่ รางวัลที่ 1 ใช้เงินฟรีไม่มีดอกเบี้ยนาน 5 ปี 3 รางวัล รางวัลที่ 2 ใช้เงินฟรีไม่มีดอกเบี้ยนาน 1 ปี มี 10 รางวัล และรางวัลที่ 3 ใช้เงินฟรีไม่มีดอกเบี้ยนาน 3 รอบบัญชี 200 รางวัล โดยคาดว่าแคมเปญนี้จะสามารถกระตุ้นยอดกดเงินสดให้เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 10%

“ธนาคารแห่งประเทศไทยที่ออกมาเตือนนั้น ไม่ใช่ให้ลดแคมเปญ แต่ให้ลดการกระตุ้นในการก่อหนี้ อย่างกรณีแจกทอง อาจกระตุ้นให้เกิดการก่อหนี้ที่ไม่จำเป็นเพราะอยากได้ทอง แต่กรณีของเรา เป็นเรื่องของการแบ่งเบาภาระมากกว่า ซึ่งสิ่งที่สมาชิกต้องการอย่างแท้จริง”
กำลังโหลดความคิดเห็น