ไทยเล็งผลักดันเงินบาทเป็นสกุลหลักในการค้าชายแดน ยันไม่กระทบต่อราคาสินค้า

พาณิชย์ร่วมหารือเอกชนดันเงินบาทเป็นสกุลหลักในการค้าชายแดน เผยช่วยลดต้นทุนได้อื้อ แถมยังช่วยให้การค้าขายมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น จะไม่มีผลกระทบต่อราคาสินค้าของไทยให้ปรับตัวสูงขึ้น

นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยก่อนการประชุมผลักดันการใช้เงินบาทเป็นเงินสกุลหลักในการทำการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยระบุว่า การประชุมหารือกับภาคเอกชนครั้งนี้ เพื่อต้องการผลักดันสกุลเงินบาทใช้ในการทำการค้าชายแดนให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน ใช้อยู่ที่ร้อยละ 50 ขณะที่การค้าใช้แดนในปีที่ผ่านมา ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 30 มีมูลค่า 9 แสนล้านบาท ซึ่งเป้าในนี้ตั้งไว้ที่ 1.2 ล้านบาท และขยายตัวมากกว่าร้อยละ 30 จากการขยายตัวของการค้าชายแดน ทางภาคเอกชนจึงเห็นว่าหากสามารถผลักดันสกุลเงินบาทใช้ในการทำการค้าชายแดนได้ จะสามารถลดต้นทุนในอัตราแลกเปลี่ยนในการทำการค้า อีกทั้งช่วยให้การค้าชายแดนมีความคล่องตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ เชื่อว่ามูลค่าการค้าชายแดนจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ขณะเดียวกัน การผลักดันสกุลเงินบาทเพื่อใช้ในการค้าชายแดนนั้น จะไม่มีผลกระทบต่อราคาสินค้าของไทยให้ปรับตัวสูงขึ้น และจะไม่มีผลกระทบต่อการค้าตามแนวชายแดนอย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจุบันการกำหนดราคาสินค้าในการค้าชายแดนนั้น มีทั้งกำหนดในรูปของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และในรูปของค่าเงินบาท ซึ่งจะพิจารณาตามสินค้าแต่ละตัว ดังนั้น ภาคเอกชนจึงเห็นว่าหากผลักดันสกุลเงินบาทใช้ในการค้าชายแดนได้จะลดภาระให้ภาคเอกชน

อย่างไรก็ตาม ทางภาคเอกชนเห็นว่าหากสามารถผลักดันเรื่องดังกล่าวได้ ควรที่จะเร่งดำเนินการ เนื่องจากค่าเงินบาทยังมีความผันผวน แต่เบื้องต้น ที่ประชุมคงจะพิจารณาถึงข้อเท็จจริงว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เงินตราที่ใช้ในปัจจุบันเป็นอย่างไร หากจะนำสกุลเงินบาทเป็นสกุลหลักในการค้าชายแดนควรจะใช้แนวทางไหนในการดำเนินการ อีกทั้งผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งในเรื่องของระบบการค้า กติกาทางการค้าเป็นอย่างไร เพื่อหาแนวทางแก้ไข