ขาดแรงหนุน
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นเริ่มมีความพลิกผันอีกครั้ง เนื่องจากราคาหุ้นดีดตัวขึ้นมาต่อเนื่อง และไม่มีปัจจัยสนับสนุนอย่างชัดเจน ทำให้นักลงทุนชิงจังหวะขายทำกำไร จนดัชนีทรุดลง ทำให้การผ่านทะลุ 1,650 จุดในช่วงสั้นไม่เกิดขึ้นง่ายนัก
ดัชนีปิดที่ 1,617.89 จุด ลดลง 12.20 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 56,762 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 367 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติที่อัดแรงซื้อกว่า 4,000 ล้านบาท เมื่อวันพุธ เมื่อดูตัวเลขแล้วปรากฏว่าเป็นรายการซื้อบิ๊กลอ็ตเข้ามาผสม โดยยอดซื้อขายปกติไม่มาก ซึ่งเมื่อถอดตัวเลขการซื้อของต่างชาติ ปรากฏว่า ส่วนใหญ่เกิดจากการซื้อบิ๊กล็อต ทำให้นักลงทุนไม่มีความมั่นใจในแนวโน้มระยะสั้น และทยอยขายหุ้นออกมา
ใครที่ฝันว่าดัชนีรอบนี้จะวิ่งไปผ่านทะลุ 1,650 สบาย ต้องทบทวนความคิดกันใหม่ เพราะตลาดมีสัญญาณการอ่อนแรง สลับกับภาวะความผันผวน เนื่องจากไม่มีข่าวดีใหม่เข้ามา และราคาหุ้นซึมซับรับความคาดหมายเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการไปล่วงหน้าแล้ว ทำให้การไต่ระดับต่อเนื่องไม่ง่ายนัก เนื่องจากจะเจอแรงขายต้านตลอดทาง และหามีปัจจัยลบเข้ามาพร้อมจะดิ่งหัวแรงด้วยเหมือนกัน
แนวโน้มตลาดระยะสั้นจึงมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่การเก็งกำไรหุ้นรายตัวก็เสี่ยงต่อการพลาดพลั้ง เพราะหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กซึมซับรับข่าวไปมากแล้ว เช่นเดียวกับหุ้นขนาดใหญ่ แรงขับเคลื่อนดัชนีจึงอ่อนล้า และหากมีปัจจัยลบกระทบก็อาจเกิดการปรับฐานรอบใหญ่ได้
ในระยะสั้นจึงพยายามลดน้ำหนักลงทุน หรือรอจังหวะให้เหมาะเพื่อซื้อของถูก และโอกาสซื้อของถูกก็กำลังเปิดกว้างมากขึ้นเสียด้วย
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นเริ่มมีความพลิกผันอีกครั้ง เนื่องจากราคาหุ้นดีดตัวขึ้นมาต่อเนื่อง และไม่มีปัจจัยสนับสนุนอย่างชัดเจน ทำให้นักลงทุนชิงจังหวะขายทำกำไร จนดัชนีทรุดลง ทำให้การผ่านทะลุ 1,650 จุดในช่วงสั้นไม่เกิดขึ้นง่ายนัก
ดัชนีปิดที่ 1,617.89 จุด ลดลง 12.20 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 56,762 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 367 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติที่อัดแรงซื้อกว่า 4,000 ล้านบาท เมื่อวันพุธ เมื่อดูตัวเลขแล้วปรากฏว่าเป็นรายการซื้อบิ๊กลอ็ตเข้ามาผสม โดยยอดซื้อขายปกติไม่มาก ซึ่งเมื่อถอดตัวเลขการซื้อของต่างชาติ ปรากฏว่า ส่วนใหญ่เกิดจากการซื้อบิ๊กล็อต ทำให้นักลงทุนไม่มีความมั่นใจในแนวโน้มระยะสั้น และทยอยขายหุ้นออกมา
ใครที่ฝันว่าดัชนีรอบนี้จะวิ่งไปผ่านทะลุ 1,650 สบาย ต้องทบทวนความคิดกันใหม่ เพราะตลาดมีสัญญาณการอ่อนแรง สลับกับภาวะความผันผวน เนื่องจากไม่มีข่าวดีใหม่เข้ามา และราคาหุ้นซึมซับรับความคาดหมายเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการไปล่วงหน้าแล้ว ทำให้การไต่ระดับต่อเนื่องไม่ง่ายนัก เนื่องจากจะเจอแรงขายต้านตลอดทาง และหามีปัจจัยลบเข้ามาพร้อมจะดิ่งหัวแรงด้วยเหมือนกัน
แนวโน้มตลาดระยะสั้นจึงมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่การเก็งกำไรหุ้นรายตัวก็เสี่ยงต่อการพลาดพลั้ง เพราะหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กซึมซับรับข่าวไปมากแล้ว เช่นเดียวกับหุ้นขนาดใหญ่ แรงขับเคลื่อนดัชนีจึงอ่อนล้า และหากมีปัจจัยลบกระทบก็อาจเกิดการปรับฐานรอบใหญ่ได้
ในระยะสั้นจึงพยายามลดน้ำหนักลงทุน หรือรอจังหวะให้เหมาะเพื่อซื้อของถูก และโอกาสซื้อของถูกก็กำลังเปิดกว้างมากขึ้นเสียด้วย