อาร์ ซี แอล ไตรมาสแรกปีนี้ขาดทุนลดลงเหลือ 359 ล้านบาท จากปีก่อนที่ขาดทุนกว่า 494 ล้านบาท หรือลดลงกว่า 135 ล้านบาท ผลจากปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น และความผันผวนจากอัตราค่าระวางส่งผลให้ผลขาดทุนต่ำลง แถมมีกำไรจากการขายสินทรัพย์
นายสุเมธ ตันธุวนิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 358.83 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนขาดทุน 494.14 ล้านบาท หรือขาดทุนลดลง 135.31 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 27.38% ผลจากกำลังการขนส่งที่สูงเกินอย่างต่อเนื่อง และการผันผวนของอัตราค่าระวางส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการจากการดำเนินงานเป็นผลขาดทุนลดลง โดยไม่รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการขนส่งตู้สินค้าในประเภทคู่ค้ากับสายเรือใหญ่ในไตรมาสแรกของปี จำนวน 279,982 ตู้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีการขนส่งตู้สินค้าในประเภทที่บริษัทฯ ดำเนินการเองลดลงร้อยละ 2 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่จำนวน 261,471 ตู้ ยอดรวมการขนส่งตู้สินค้าของบริษัทฯ จึงมีจำนวน 541,453 ตู้ เป็นการเพิ่มขึนในอัตราร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผลจากการผันผวนของอัตราค่าระวางนี้ ทำให้รายได้รวมในไตรมาสแรกของปีก่อน ผลต่างอัตราแลกเปลี่ยน กำไรจากการขายสินทรัพย์ และการปรับปรุงการตังสำรองผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากตราสารอนุพันธ์ มี 3,025 ล้านบาท ลดลงในอัตราร้อยละ 5 ต้นทุนการเดินเรือ และการดำเนินงานมีจำนวนในไตรมาสแรกของปีนี้ 3,088 ล้านบาท ลดลงในอัตราร้อยละ 11 หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง
ขณะที่บริษัทฯ ขายตู้สินค้าเก่า และมีผลกำไรจากการขาย จำนวน 38 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี เมื่อเทียบกับผลกำไรจากการขาย 36 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาสเดียวกันนี้ บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 19 ล้านบาท เทียบกับผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 152 ล้านบาท ที่บันทึกในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผู้ประกอบการขนส่งตู้สินค้าทุกรายยังคงเผชิญกับความท้าทายในความต้องการขนส่งสินค้าที่ไม่แน่นอน อัตราค่าระวางที่มีการปรับเปลี่ยนเร็ว การด้อยค่าของสินทรัพย์เรือเดินทะเล และอัตราค่ารับประกอบการขนส่งตู้สินค้าที่อาจปรับตัวลงในอนาคต
นายสุเมธ ตันธุวนิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 358.83 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนขาดทุน 494.14 ล้านบาท หรือขาดทุนลดลง 135.31 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 27.38% ผลจากกำลังการขนส่งที่สูงเกินอย่างต่อเนื่อง และการผันผวนของอัตราค่าระวางส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการจากการดำเนินงานเป็นผลขาดทุนลดลง โดยไม่รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการขนส่งตู้สินค้าในประเภทคู่ค้ากับสายเรือใหญ่ในไตรมาสแรกของปี จำนวน 279,982 ตู้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีการขนส่งตู้สินค้าในประเภทที่บริษัทฯ ดำเนินการเองลดลงร้อยละ 2 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่จำนวน 261,471 ตู้ ยอดรวมการขนส่งตู้สินค้าของบริษัทฯ จึงมีจำนวน 541,453 ตู้ เป็นการเพิ่มขึนในอัตราร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผลจากการผันผวนของอัตราค่าระวางนี้ ทำให้รายได้รวมในไตรมาสแรกของปีก่อน ผลต่างอัตราแลกเปลี่ยน กำไรจากการขายสินทรัพย์ และการปรับปรุงการตังสำรองผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากตราสารอนุพันธ์ มี 3,025 ล้านบาท ลดลงในอัตราร้อยละ 5 ต้นทุนการเดินเรือ และการดำเนินงานมีจำนวนในไตรมาสแรกของปีนี้ 3,088 ล้านบาท ลดลงในอัตราร้อยละ 11 หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง
ขณะที่บริษัทฯ ขายตู้สินค้าเก่า และมีผลกำไรจากการขาย จำนวน 38 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี เมื่อเทียบกับผลกำไรจากการขาย 36 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาสเดียวกันนี้ บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 19 ล้านบาท เทียบกับผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 152 ล้านบาท ที่บันทึกในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผู้ประกอบการขนส่งตู้สินค้าทุกรายยังคงเผชิญกับความท้าทายในความต้องการขนส่งสินค้าที่ไม่แน่นอน อัตราค่าระวางที่มีการปรับเปลี่ยนเร็ว การด้อยค่าของสินทรัพย์เรือเดินทะเล และอัตราค่ารับประกอบการขนส่งตู้สินค้าที่อาจปรับตัวลงในอนาคต