ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนนักลงทุนที่ถือหุ้นไอทีวี หลังผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน อาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ พร้อมให้พิจารณาความเห็นของผู้สอบบัญชีประกอบตัวเลขในงบ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า เนื่องจากบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV ซึ่งอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non-Performing Group) ได้นำส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 ฉบับที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นต่องบการเงินของบริษัท ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงแจ้งให้ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนทราบ และพิจารณาความเห็นของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงิน และหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง
โดยบริษัทแจ้งงบไตรมาสแรกปี 56 ขาดทุน 107.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากงวดนี้ปี 55 ที่ขาดทุน 105.72 ล้านบาท และผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นในงบการเงินเนื่องจากมีผลขาดทุนสะสมเกินทุน จำนวน 4,423 ล้านบาท ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัท
ขณะบริษัทชี้แจงว่า งบการเงินดังกล่าวมีผลจากคดีที่บริษัทถูกบอกเลิกสัญญาอนุญาตให้ดำเนินการ โดยยังเป็นประเด็นข้อพิพาทที่อยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการอนุญาโตตุลาการ แต่ตามหลักการบัญชีที่รองรับทั่วไป บริษัทจำเป็นต้องบันทึกสำรองเผื่ออนุญาตให้ดำเนินกาส่วนต่าง 2,891 ล้านบาท และดอกเบี้ยล่าช้าของคำอนุญาตให้ดำเนินการ นับตั้งแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำตัดสินเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการจนถึง 31 มีนาคม 56 จำนวน 2,672 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายจ่ายที่ยังมิได้เกิดขึ้นจริง
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า เนื่องจากบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV ซึ่งอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non-Performing Group) ได้นำส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 ฉบับที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นต่องบการเงินของบริษัท ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงแจ้งให้ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนทราบ และพิจารณาความเห็นของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงิน และหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง
โดยบริษัทแจ้งงบไตรมาสแรกปี 56 ขาดทุน 107.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากงวดนี้ปี 55 ที่ขาดทุน 105.72 ล้านบาท และผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นในงบการเงินเนื่องจากมีผลขาดทุนสะสมเกินทุน จำนวน 4,423 ล้านบาท ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัท
ขณะบริษัทชี้แจงว่า งบการเงินดังกล่าวมีผลจากคดีที่บริษัทถูกบอกเลิกสัญญาอนุญาตให้ดำเนินการ โดยยังเป็นประเด็นข้อพิพาทที่อยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการอนุญาโตตุลาการ แต่ตามหลักการบัญชีที่รองรับทั่วไป บริษัทจำเป็นต้องบันทึกสำรองเผื่ออนุญาตให้ดำเนินกาส่วนต่าง 2,891 ล้านบาท และดอกเบี้ยล่าช้าของคำอนุญาตให้ดำเนินการ นับตั้งแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำตัดสินเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการจนถึง 31 มีนาคม 56 จำนวน 2,672 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายจ่ายที่ยังมิได้เกิดขึ้นจริง