นายกฯ ห่วงบาทแข็ง สั่งการ “กิตติรัตน์” เข้าไปจัดการด่วน แต่เลี่ยงให้ความเห็น “ขุนคลัง” อยากปลดผู้ว่าฯ ธปท. ทุกวัน ยอมรับ “คลัง-แบงก์ชาติ” ขัดแย้งเชิงนโยบายแก้ปัญหาค่าเงิน บอกทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยมอรับว่า ตนเองได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือดูแลผู้ส่งออก และได้ย้ำต่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานด้านเศรษฐกิจ ให้เร่งไปหารือกันเพื่อช่วยเหลือโดยเฉพาะบริษัทที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ นายกิตติรัตน์ จะพยายามประสานงาน รวมถึงดูแลเรื่องการเงินการคลังให้เร็วที่สุด ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเกรงว่าเงินบาทจะแข็งค่าไปอยู่ที่ 27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเป็นห่วง จึงต้องให้ทุกหน่วยงานทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะเป็นปัญหาใหญ่ของประชาชน ดังนั้น ทุกกลไกที่มีหน้าที่ต้องช่วยกันทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ
“ถ้าจะรอเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคงไม่เกิดผลแน่ ผลสุดท้ายความเสียหายก็จะตกอยู่กับประชาชน และประเทศ ทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกัน ซึ่งดิฉันได้เร่งรัดไปแล้ว โดยเรียกประชุมเพื่อติดตามอยู่เป็นระยะอยู่แล้ว และการหามาตรการแทรกแซงราคาค่าเงินบาท ก็อยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ดูแล และควบคุมนโยบายด้านการคลัง และเศรษฐกิจในภาพรวม ส่วนนโยบายเรื่องดอกเบี้ย คงต้องให้ นายกิตติรัตน์ ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายกิตติรัตน์ อยากเปลี่ยนตัวผู้ว่าการ ธปท. เพราะการทำงานไม่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล โดยมองว่า ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ถ้าทุกคนช่วยกันทำก็จะได้ประโยชน์ เชื่อว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตไปได้
