xs
xsm
sm
md
lg

“โกลเบล็ก” มองตลาดหุ้นไร้ปัจจัยบวก-แนะลงทุนหุ้นพื้นฐาน – ทองคำ กระจายความเสี่ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 “บล.โกลเบล็ก” มองดัชนีตลาดหุ้นยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เหตุยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงกดดันการลงทุนต่อเนื่อง ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ธนพิศาล คูหาเปรมกิจ” แนะหาจังหวะเลือกลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐาน-ทองคำ  เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง  เชื่อการประกาศงบกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ดึงตลาดหุ้นกลับมาคึกคักได้ ส่วน “จักรกริช  เจริญเมธาชัย” แนะลงทุนหุ้น AIT, SCP, TASCO, MBK ,  AMATA

นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก  จำกัด (GBS) เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นว่า  แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ ยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ซึ่งเป็นผลจาก  หลายปัจจัยที่ยังคงเป็นแรงกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทย เช่น   สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี  ,  ทิศทางเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น รวมถึงวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในยุโรปที่ยังไม่คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้นมากนัก ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาเป็นแรงสนับสนุน  ประกอบกับช่วงเดือนเมษายนนี้  เป็นช่วงเทศกาลวันหยุดต่อเนื่อง  ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงกดดันตลาด จนส่งผลให้เกิดแรงเทขายออกอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา  

 “ปัจจัยต่างๆ ที่เขามากดดันตลาด ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยขณะนี้ ทำให้วอลุ่มของตลาดหุ้นในช่วงระยะสั้นค่อนข้างเบาบาง   ซึ่งถือเป็นช่วงขาลงของตลาด ขณะเดียวกัน มองว่าหากนักลงทุนที่ต้องการเข้าลงทุนก็แนะนำให้หาจังหวะการเลือกลงทุนในหุ้นที่เหมาะสม โดยเน้นหุ้นปัจจัยพื้นฐาน พร้อมทั้งแนะนำให้ปรับพอร์ตการลงทุนจากหุ้นมาลงทุนในทองคำบางส่วน เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง” นายธนพิศาล กล่าว

ขณะเดียวกัน   ในช่วงกลางเดือนหน้าจะมีการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2556 โดยธนาคารพาณิชย์จะเป็นบริษัทจดทะเบียนกลุ่มแรกที่จะทยอยประกาศงบออกมา ซึ่งจากการประมาณการเบื้องต้นคาดว่ากลุ่มดังกล่าวจะมีผลการดำเนินงานที่ดี ซึ่งก็จะส่งผลต่อตลาดหุ้นในเชิงบวก และจะเกิดแรงหนุนในการซื้อกลับของกลุ่มนักลงทุน
 
ด้าน นายจักรกริช  เจริญเมธาชัย กรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก   กล่าวว่า  ดัชนีตลาดหุ้นไทย  มีแนวโน้มปรับตัวลงทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,465  ถึง 1,440  ในที่ผ่านมา ดังนั้น จึงว่าในระยะสั้นถึงกลาง ดัชนีมีแนวโน้มที่จะรีบาวด์ขึ้นได้

ดังนั้น ทาง บล.จึงแนะนำกลยุทธ์พอร์ตเก็งกำไรระยะสั้นให้เล่นรีบาวนด์ที่แนวรับ โดยนักลงทุนที่ลงทุนในพอร์ตระยะ 3 เดือน ถึง  6 เดือน แนะรอดูแรงขายที่ระดับต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อวัน ก่อนพิจารณาซื้อกลับในบริเวณแนวรับ 1,440-1,400 จุด

 “โดยส่วนตัวเชื่อว่า เม็ดเงินทุนต่างชาติยังคงไม่ออกไปยังตลาดอื่น และยังคงพักฐานอยู่ในตลาดไทย  เพื่อรอจังหวะการเข้าซื้อรอบใหม่  โดยหุ้นที่แนะนำ  ทาง บล.แนะ  บมจ.แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT), บมจ.ทักษิณคอนกรีต  (SCP),  บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO), บมจ.เอ็ม บี เค (MBK) บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) นอกจากนี้ ที่มองว่าจะเป็น  Top Picks  ไตรมาส 2/2556  และเก็งกำไร ธนาคารกรุงไทย  (KTB), บมจ.ทุนธนชาต  (TCAP) จากงบไตรมาส 1/2556 ที่จะออกมาเติบโตโดดเด่น” นายจักรกริชกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น