เอสพีซีจี เผยเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าของโครงการโซลาร์ ฟาร์ม ของบริษัทย่อยเรียบร้อยแล้วเพิ่มเติมอีก
จำนวน 7 โครงการ กำลังผลิตรวมกันประมาณ 45 เมกะวัตต์ พร้อมเชื่อมโยงเข้าระบบเสริมความมั่นคงแก่การจำหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในช่วงที่ประเทศประสบปัญหาภาวะวิกฤตพลังงานจากกรณีประเทศพม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติ คาดจำหน่ายไฟฟ้าได้สิ้นเดือนเมษายนนี้
นายสมศักดิ์ กุญชรยาคง กรรมการ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG ในฐานะผู้พัฒนาโครงการโซลาณื ฟาร์ม ภายใต้บริษัทย่อย แจ้งความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการว่า ณ วันที่ 10 เมษายน 2556 บริษัทฯ ได้ทำการก่อสร้างโซลาร์ ฟาร์ม แล้วเสร็จและทำการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าของโครงการโซลาร์ ฟาร์ม ที่เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเพิ่มเติมอีกจำนวน 7 โครงการ ดังนี้
บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (ขอนแก่น 2) จำกัด เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556 บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (บุรีรัมย์ 1) จำกัด เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556 บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (บุรีรัมย์ 2) จำกัด เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556 บริษัท เอ เจ เทคโนโลยี จำกัด เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2556 บริษัท ทิพยนารายณ์ จำกัด เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2556 บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (โคราช 6) จำกัด เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556 และบริษัท โซล่า เพาเวอร์ (ขอนแก่น 7) จำกัด เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556
โดยโครงการโซลาร์ ฟาร์ม ทั้ง 7 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมกันประมาณ 45 เมกะวัตต์ ได้ทำการเชื่อมโยงเพื่อเร่งส่งกระแสไฟฟ้าเข้าระบบเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงแก่การจำหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. ในช่วงที่ประเทศประสบปัญหาภาวะวิกฤตพลังงานจากกรณีประเทศพม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติเพื่อทำการซ่อมแซมท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ในช่วงวันที่ 4-15 เมษายน 2556
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในสิ้นเดือนเมษายน 2556 รวมโครงการโซลาร์ ฟาร์ม ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นจำนวน 23 โครงการ ส่วนโครงการที่เหลืออีก 13 โครงการ อยู่ระหว่างการพัฒนา และคาดว่าจะก่อสร้างและจำหน่ายไฟฟ้าได้ตามกำหนดในปี 2556 นี้
จำนวน 7 โครงการ กำลังผลิตรวมกันประมาณ 45 เมกะวัตต์ พร้อมเชื่อมโยงเข้าระบบเสริมความมั่นคงแก่การจำหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในช่วงที่ประเทศประสบปัญหาภาวะวิกฤตพลังงานจากกรณีประเทศพม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติ คาดจำหน่ายไฟฟ้าได้สิ้นเดือนเมษายนนี้
นายสมศักดิ์ กุญชรยาคง กรรมการ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG ในฐานะผู้พัฒนาโครงการโซลาณื ฟาร์ม ภายใต้บริษัทย่อย แจ้งความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการว่า ณ วันที่ 10 เมษายน 2556 บริษัทฯ ได้ทำการก่อสร้างโซลาร์ ฟาร์ม แล้วเสร็จและทำการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าของโครงการโซลาร์ ฟาร์ม ที่เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเพิ่มเติมอีกจำนวน 7 โครงการ ดังนี้
บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (ขอนแก่น 2) จำกัด เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556 บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (บุรีรัมย์ 1) จำกัด เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556 บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (บุรีรัมย์ 2) จำกัด เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556 บริษัท เอ เจ เทคโนโลยี จำกัด เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2556 บริษัท ทิพยนารายณ์ จำกัด เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2556 บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (โคราช 6) จำกัด เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556 และบริษัท โซล่า เพาเวอร์ (ขอนแก่น 7) จำกัด เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556
โดยโครงการโซลาร์ ฟาร์ม ทั้ง 7 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมกันประมาณ 45 เมกะวัตต์ ได้ทำการเชื่อมโยงเพื่อเร่งส่งกระแสไฟฟ้าเข้าระบบเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงแก่การจำหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. ในช่วงที่ประเทศประสบปัญหาภาวะวิกฤตพลังงานจากกรณีประเทศพม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติเพื่อทำการซ่อมแซมท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ในช่วงวันที่ 4-15 เมษายน 2556
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในสิ้นเดือนเมษายน 2556 รวมโครงการโซลาร์ ฟาร์ม ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นจำนวน 23 โครงการ ส่วนโครงการที่เหลืออีก 13 โครงการ อยู่ระหว่างการพัฒนา และคาดว่าจะก่อสร้างและจำหน่ายไฟฟ้าได้ตามกำหนดในปี 2556 นี้