“แคปปิตอล จี” น้องใหม่อสังหาฯ ผุดคอนโดฯ เจาะนักลงทุนแบรนด์ Avenue เน้นทำเลมหาวิทยาลัย เมืองท่องเที่ยว ล่าสุด เปิด Avenue Venice เอแบค บางนา และ Avenue Valley ม.รังสิต การันตีค่าเช่า 5,500 บาท/เดือน นาน 10 ปี
นายชัยรัตน์ พิรุฬหพัสต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอลจี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทในเครือมีนบุรีซีเมนต์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตนอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาเป็นเวลานาน ซึ่งนอกจากจะเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ารายใหญ่ 1 ใน 3 ของเครือซิเมนต์ไทยแล้ว ยังประกอบธุรกิจโรงงานเฟอร์นิเจอร์ อาคเนย์ เดคคอร์ รวมถึงบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารพาณิชย์ อพาร์ตเมนต์ ภายใต้ชื่อ Kendall Builder
ที่ผ่านมาได้เห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการคอนโดฯ จับกลุ่มนักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า ซึ่งในปี 2553 ได้เริ่มพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Avenue ได้แก่ Avenue @ 10, Avenue Beach, Avenue Spring ย่านพัทยา ทั้งหมดปิดการขายไปแล้ว และอยู่ระหว่างการขายโครงการ i-Loft บางแสน จำนวน 77 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 90%
ล่าสุด บริษัทได้เข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “Avenue” เน้นทำเลที่มีผู้เช่าระยะยาว เช่น มหาวิทยาลัย เมืองท่องเที่ยว เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า โดยเปิดขายใน 2 ทำเล ได้แก่ Avenue Venice เอเบค บางนา-ตราด กม. 26 ห้องชุดขนาด 22 ตร.ม. ราคา 8.9 แสนบาท จำนวน 245 ยูนิต และ Avenue Valley ม.รังสิต ย่านมหาวิทยาลัยรังสิต ห้องชุดขนาด 22 ตร.ม. จำนวน 570 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8.9 แสนบาท
นายชัยรัตน์ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำศักยภาพในการปล่อยเช่า ซึ่งเหมาะแก่นักลงทุนบริษัทได้การันตีรายได้ค่าเช่า 5,500 บาท/เดือน นาน 10 ปี ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าว่าต้องการจะให้บริษัทบริหารการเช่าให้หรือไม่ หรือต้องการอยู่เอง หรือต้องการให้บริหารเป็นช่วงเวลา เช่น ให้ลูกอยู่ในช่วงที่เรียนอยู่ หลังจากนั้นให้บริษัทบริหารการเช่าให้ก็สามารถทำได้
“คอนเซ็ปต์ดังกล่าวเหมาะสำหรับนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยที่นักลงทุนไม่ต้องหาผู้เช่าเอง ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี หลังจากที่ประสบความสำเร็จมาแล้วใน 3 โครงการที่ผ่านมา”
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะพัฒนา Avenue อีก 2 โครงการภายในปีนี้ โดยมองไปที่ทำเล ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต และ ม.กรุงเทพ โดยในระยะแรกจะเน้นการพัฒนาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเมืองท่องเที่ยวพัทยา บางแสน ส่วนในต่างจังหวัดหัวเมืองหลักยังไม่ลงทุนในระยะนี้
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเปิดขายโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ “วิลล่า” บางใหญ่อีก 1 โครงการ จำนวน 50 ยูนิต มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท โดยจะเปิดขายในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ รวมถึงแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเน้นกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าอีกด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างหาซื้อที่ดิน
