ธ.ก.ส.มั่นใจมีเงินรับจำนำข้าวนาปรังฉลุย หลังพาณิชย์ยอมขายข้าวจ่ายหนี้เดือนละ 1 หมื่นล้านบาท
นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ในการรับจำนำข้าวนาปรังรอบ 2 ธ.ก.ส.พร้อมจะจ่ายเงินให้เกษตรกรทันทีที่ได้รับใบประทวน ไม่สะดุด เพราะได้เตรียมสภาพคล่องไว้แล้ว โดยคาดว่าจะมีข้าวเข้าโครงการ 7 ล้านตัน ใช้เงิน 1.05 แสนล้านบาท
สำหรับแหล่งเงินในการรับจำนำ จะมาจาก 2 แหล่ง คือ เงินที่ ครม.อนุมัติไว้รับจำนำข้าวนาปี 2555/2556 จำนวน 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งมียอดรับจำนำล่าสุดกว่า 1.8 แสนล้านบาท ทำให้ยังเหลือวงเงินอีกประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะต้องหาเงินกู้มาให้ ธ.ก.ส. ระหว่างรอเงินกู้ดังกล่าว ธ.ก.ส.จะสำรองเงินจ่ายก่อน แต่ไม่เกินวงเงินที่ สบน.จะหามาให้ และได้ค่าตอบแทนเฉลี่ย 4%
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะระบายข้าว และนำเงินส่ง ธ.ก.ส.อีกเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท ทำให้มีเงินหมุนเวียนรอบนี้อีก 5-6 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ทยอยคืนเงินจากการระบายข้าวให้ ธ.ก.ส. มากกว่า 1 แสนล้านบาท โดยบางส่วนนำไปใช้หนี้โครงการเก่า แต่ส่วนใหญ่จะใช้หมุนเวียนในโครงการใหม่
นายบุญไทย แก้วขันตี รองกรรมการผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ณ วันที่ 31 มี.ค. กระทรวงพาณิชย์คืนเงินค่าข้าวให้ ธ.ก.ส. เป็นเงิน 103,295 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินค่าข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2554/2555 และปี 2555/2556 จำนวน 82,592 ล้านบาท และค่าข้าวสารเก่าที่ค้างในสต๊อก 20,703 ล้านบาท และสิ้นเดือน ก.ย. จะคืนเงินค่าข้าวอีก 7.5 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท รวมกับสภาพคล่อง ธ.ก.ส.อีก 2 แสนล้านบาท ทำให้ ธ.ก.ส.มีสภาพคล่องพอในการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2556
นายบุญไทย ระบุว่า วันที่ 5 เม.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์ ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะสรุปผลขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเพื่อที่รัฐบาลจะได้ตั้งงบชดใช้หนี้ให้ ธ.ก.ส. ในช่วง 4 ปีงบประมาณข้างหน้า โดยปัจจุบัน รัฐบาลมีหนี้คงค้างในโครงการรับจำนำกับ ธ.ก.ส. 1 แสนล้านบาท และจะทยอยคืนระหว่างปีงบ 2557-2559
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง ธ.ก.ส. และกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับเงินหมุนเวียนที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ทำให้มั่นใจว่า รัฐบาลมีสภาพคล่องเพียงพอที่ใช้ในโครงการ
นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ในการรับจำนำข้าวนาปรังรอบ 2 ธ.ก.ส.พร้อมจะจ่ายเงินให้เกษตรกรทันทีที่ได้รับใบประทวน ไม่สะดุด เพราะได้เตรียมสภาพคล่องไว้แล้ว โดยคาดว่าจะมีข้าวเข้าโครงการ 7 ล้านตัน ใช้เงิน 1.05 แสนล้านบาท
สำหรับแหล่งเงินในการรับจำนำ จะมาจาก 2 แหล่ง คือ เงินที่ ครม.อนุมัติไว้รับจำนำข้าวนาปี 2555/2556 จำนวน 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งมียอดรับจำนำล่าสุดกว่า 1.8 แสนล้านบาท ทำให้ยังเหลือวงเงินอีกประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะต้องหาเงินกู้มาให้ ธ.ก.ส. ระหว่างรอเงินกู้ดังกล่าว ธ.ก.ส.จะสำรองเงินจ่ายก่อน แต่ไม่เกินวงเงินที่ สบน.จะหามาให้ และได้ค่าตอบแทนเฉลี่ย 4%
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะระบายข้าว และนำเงินส่ง ธ.ก.ส.อีกเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท ทำให้มีเงินหมุนเวียนรอบนี้อีก 5-6 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ทยอยคืนเงินจากการระบายข้าวให้ ธ.ก.ส. มากกว่า 1 แสนล้านบาท โดยบางส่วนนำไปใช้หนี้โครงการเก่า แต่ส่วนใหญ่จะใช้หมุนเวียนในโครงการใหม่
นายบุญไทย แก้วขันตี รองกรรมการผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ณ วันที่ 31 มี.ค. กระทรวงพาณิชย์คืนเงินค่าข้าวให้ ธ.ก.ส. เป็นเงิน 103,295 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินค่าข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2554/2555 และปี 2555/2556 จำนวน 82,592 ล้านบาท และค่าข้าวสารเก่าที่ค้างในสต๊อก 20,703 ล้านบาท และสิ้นเดือน ก.ย. จะคืนเงินค่าข้าวอีก 7.5 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท รวมกับสภาพคล่อง ธ.ก.ส.อีก 2 แสนล้านบาท ทำให้ ธ.ก.ส.มีสภาพคล่องพอในการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2556
นายบุญไทย ระบุว่า วันที่ 5 เม.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์ ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะสรุปผลขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเพื่อที่รัฐบาลจะได้ตั้งงบชดใช้หนี้ให้ ธ.ก.ส. ในช่วง 4 ปีงบประมาณข้างหน้า โดยปัจจุบัน รัฐบาลมีหนี้คงค้างในโครงการรับจำนำกับ ธ.ก.ส. 1 แสนล้านบาท และจะทยอยคืนระหว่างปีงบ 2557-2559
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง ธ.ก.ส. และกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับเงินหมุนเวียนที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ทำให้มั่นใจว่า รัฐบาลมีสภาพคล่องเพียงพอที่ใช้ในโครงการ