ผู้ว่า ธปท. ยันบาทแข็งแตะ 29.5 ทำสถิติรอบ 28 เดือน ยังไม่ผิดปกติ แต่ก็ต้องระวัง ยอมรับเกิดจากข่าวไทยถูกปรับเครดิตความน่าเชื่อถือดีขึ้น แต่เพื่อนบ้านกำลังมีปัญหาเลือกตั้ง ซึ่งปัญหานี้คงต้องดูอีกหน่อยไม่ใช่ดูแค่วันเดียว ส่วนการเคลื่อนย้ายเงินทุนในช่วงนี้ยังไม่น่ากังวล พร้อมย้ำไม่ถึงขั้นต้องประชุม กนง. นัดพิเศษ และปรับนโยบายดูแลค่าเงิน ส่วนการแทรกแซงค่าเงินปฎิเสธที่จะตอบคำถาม
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีเงินบาทแข็งค่าทำสถิติในรอบ 28 เดือน เมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) โดยเป็นผลมาจากเงินทุนต่างประเทศที่ไทยเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดี และมีโอกาสได้รับการปรับขึ้นอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ จึงจูงใจให้เข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ ค่าเงินบาทวานนี้มีการเคลื่อนไหว 2 ทิศทาง ซึ่งได้รายงานภาวะตลาดให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รับทราบแล้ว แต่ยืนยันว่ายังไม่จำเป็นต้องเรียกประชุม กนง. เร่งด่วน
“ส่วนตัวมองว่าไม่น่าเป็นห่วง เพราะ ธปท.พยายามดำเนินนโยบายการเงินให้สมดุลตามกลไกตลาด เรื่องของ outflow-inflow กรอบการดำเนินนโยบายก็ยืดหยุ่นพอประมาณ เพื่อให้เงินทุนเคลื่อนย้ายมีทางเข้า และออกอย่างสมดุล ตามสถานการณ์”
ผู้ว่าการ ธปท. ยืนยันว่า การแข็งค่าของเงินบาทเมื่อวานนี้ ไม่ถือเป็นระดับที่น่าตกใจ และไม่ผิดปกติ แต่ก็ต้องระวัง ซึ่งคงต้องดูอีกหน่อย ไม่ใช่ดูแค่วันเดียว เพราะช่วงนี้มีข่าวออกมาว่าไทยจะได้รับการปรับเครดิตความน่าเชื่อถือ และเศรษฐกิจก็ขยายตัวได้ดี ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านมีปัญหาความขัดแย้งเรื่องการเลือกตั้ง ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดหุ้น แต่สังเกตุเห็นได้ว่าในช่วงท้ายตลาดมีการเปลี่ยนทิศทางลดลง
ผู้ว่าการ ธปท. ยืนยันว่า ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นต้องรับปรับเปลี่ยนนโยบายการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่ง ธปท.ยังคงติดตามการเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และดูแลให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ พร้อมปฎิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ธปท.ได้เข้าแทรกแซงค่าเงินบาทในช่วงนี้หรือไม่
โดยวานนี้ นักบริหารเงินระบุว่า ระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าแตะ 29.57/59 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนตัวลงในช่วงท้ายตลาด
