“แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น” โชว์กำไรปี 2555 สุทธิ 61.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 344% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ “สมบุญ” ชี้เป็นผลจากการเร่งปรับโครงสร้างการบริหารงาน และโครงสร้างการทำธุรกิจ กดค่าใช้จ่ายลดฮวบ ส่วนเงินปันผลรอลุ้นช่วงต้นเดือนมีนาคม ลั่นจากนี้ได้เวลาเทิร์นอะราวนด์พลิกฟื้นธุรกิจ
นายสมบุญ ชีวสุทธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (MATCH) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทงวดปี 2555 มีกำไรสุทธิ 61.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 344% จากปี 2554 ที่มีกำไรสุทธิ 13.83 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิของปี 2555 ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานของ MATCH ปรับตัวดีขึ้นมาก เป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการภายใน รวมไปถึงปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของ MATCH ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน การที่บริษัทหันมาเน้นงานในส่วนของการให้เช่าอุปกรณ์ในการถ่ายทำ ซึ่งมีอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) ค่อนข้างสูง มาทดแทนธุรกิจงานโฆษณาที่มาร์จิ้นต่ำ เพราะการแข่งขันรุนแรง ส่งผลให้มาร์จิ้นโดยรวมของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น ดังนั้น แม้ว่ารายได้รวมของ MATCH ในปี 2555 นี้ จะอยู่ที่ 604.55 ล้านบาท ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับปีก่อน แต่กำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ผลการดำเนินงานปี 2555 ที่ออกมามีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ถือเป็นการตอกย้ำในสิ่งที่ผู้บริหารเคยให้ข้อมูลเอาไว้ ว่า MATCH ถึงเวลาที่จะเทิร์นอะราวนด์แล้ว หลังจากที่ผ่านมาได้ปรับโครงสร้างทั้งการบริหารงานภายใน และปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปลายปี 2554 และแน่นอนว่า เราจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ แต่จะเติบโตต่อไปในสิ่งที่ MATCH ถนัดที่สุดนั่นคือ ในส่วนของธุรกิจการให้เช่าอุปกรณ์ และสตูดิโอในการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยล่าสุด ได้เข้าซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์จากบริษัทแห่งนี้ ที่มีลูกค้าเก่าในมืออยู่แล้ว ส่วนใหญ่อุปกรณ์ที่บริษัทซื้อมาใช้ในงานถ่ายทำงานด้านละคร และงานจัดแสดง ซึ่งเป็นการขยายงานรองรับลูกค้าในทุกกลุ่ม โดยบริษัทยังได้เตรียมเม็ดเงินในการขยายการลงทุนในอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์สำหรับปี 2556 ไว้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเรามั่นใจว่า เป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่น่าจะมีการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25-30% ขณะที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 10%” นายสมบุญกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (PO) จำนวน 210 ล้านหุ้นว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งคาดว่าจะสามารถขายหุ้นเพิ่มทุนได้ประมาณเดือนเมษายนนี้ จากนั้นการก่อสร้างสตูดิโอครบวงจรจะเริ่มได้ภายในปลายปี 2556 นี้ เพื่อให้เสร็จทันการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งทีมผู้บริหารเชื่อว่าจะเป็นโอกาสการเติบโตของ MATCH ในอนาคต เพราะการสร้างสตูดิโอ และเมืองถ่ายหนังครบวงจรครั้งนี้จะเป็นแห่งแรก และแห่งเดียวในภูมิภาคที่จะสามารถรองรับทั้งการถ่ายกลางแจ้ง และถ่ายในร่ม อีกทั้งยังมีเมืองใต้น้ำ เรียกได้ว่าพร้อมสรรพสำหรับทั้งงานทีวี งานอีเวนต์ และการถ่ายหนัง เพื่อเป็นการรองรับการถ่ายทำจากทีมงานต่างชาติ ส่วนสถานที่ตั้งโครงการจะใช้เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ปัจจุบัน กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเลือกให้ตั้งอยู่ที่ใด แต่จะเป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางได้สะดวก
นายสมบุญ ชีวสุทธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (MATCH) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทงวดปี 2555 มีกำไรสุทธิ 61.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 344% จากปี 2554 ที่มีกำไรสุทธิ 13.83 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิของปี 2555 ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานของ MATCH ปรับตัวดีขึ้นมาก เป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการภายใน รวมไปถึงปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของ MATCH ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน การที่บริษัทหันมาเน้นงานในส่วนของการให้เช่าอุปกรณ์ในการถ่ายทำ ซึ่งมีอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) ค่อนข้างสูง มาทดแทนธุรกิจงานโฆษณาที่มาร์จิ้นต่ำ เพราะการแข่งขันรุนแรง ส่งผลให้มาร์จิ้นโดยรวมของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น ดังนั้น แม้ว่ารายได้รวมของ MATCH ในปี 2555 นี้ จะอยู่ที่ 604.55 ล้านบาท ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับปีก่อน แต่กำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ผลการดำเนินงานปี 2555 ที่ออกมามีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ถือเป็นการตอกย้ำในสิ่งที่ผู้บริหารเคยให้ข้อมูลเอาไว้ ว่า MATCH ถึงเวลาที่จะเทิร์นอะราวนด์แล้ว หลังจากที่ผ่านมาได้ปรับโครงสร้างทั้งการบริหารงานภายใน และปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปลายปี 2554 และแน่นอนว่า เราจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ แต่จะเติบโตต่อไปในสิ่งที่ MATCH ถนัดที่สุดนั่นคือ ในส่วนของธุรกิจการให้เช่าอุปกรณ์ และสตูดิโอในการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยล่าสุด ได้เข้าซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์จากบริษัทแห่งนี้ ที่มีลูกค้าเก่าในมืออยู่แล้ว ส่วนใหญ่อุปกรณ์ที่บริษัทซื้อมาใช้ในงานถ่ายทำงานด้านละคร และงานจัดแสดง ซึ่งเป็นการขยายงานรองรับลูกค้าในทุกกลุ่ม โดยบริษัทยังได้เตรียมเม็ดเงินในการขยายการลงทุนในอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์สำหรับปี 2556 ไว้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเรามั่นใจว่า เป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่น่าจะมีการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25-30% ขณะที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 10%” นายสมบุญกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (PO) จำนวน 210 ล้านหุ้นว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งคาดว่าจะสามารถขายหุ้นเพิ่มทุนได้ประมาณเดือนเมษายนนี้ จากนั้นการก่อสร้างสตูดิโอครบวงจรจะเริ่มได้ภายในปลายปี 2556 นี้ เพื่อให้เสร็จทันการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งทีมผู้บริหารเชื่อว่าจะเป็นโอกาสการเติบโตของ MATCH ในอนาคต เพราะการสร้างสตูดิโอ และเมืองถ่ายหนังครบวงจรครั้งนี้จะเป็นแห่งแรก และแห่งเดียวในภูมิภาคที่จะสามารถรองรับทั้งการถ่ายกลางแจ้ง และถ่ายในร่ม อีกทั้งยังมีเมืองใต้น้ำ เรียกได้ว่าพร้อมสรรพสำหรับทั้งงานทีวี งานอีเวนต์ และการถ่ายหนัง เพื่อเป็นการรองรับการถ่ายทำจากทีมงานต่างชาติ ส่วนสถานที่ตั้งโครงการจะใช้เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ปัจจุบัน กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเลือกให้ตั้งอยู่ที่ใด แต่จะเป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางได้สะดวก
