เด็มโก้ เซ็นสัญญาบิ๊กโปรเจกต์ “โรจนะ เอ็นเนอร์ยี่” 3 โครงการ มูลค่า 2,220 ล้านบาท หลังชะลอโครงการจากน้ำท่วม คาดเสร็จไม่เกินต้นปีหน้า เริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทันทีตั้งแต่ไตรมาส 1/2556 คิดเป็นการบันทึกรายได้ปีนี้ร้อยละ 90 หรือกว่า 2,000 ล้านบาท และปี 2557 รับส่วนที่เหลือทั้งหมด “พงษ์ศักดิ์” ระบุสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า DEMCO ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ถือเป็นจุดแข็งที่จะผลักดันบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคง การเซ็นสัญญางาน “โรจนะ เอ็นเนอร์ยี่” ส่งผลให้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) หลังปิดงบปี 2555 แตะ 5,000 ล้านบาท
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญารับงานจ้างเหมางาน ออกแบบ จัดหาอุปกรณ์ ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบ (Engineering-Procurement-Construction :EPC) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) จากบริษัท โรจนะ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (บริษัทในเครือ บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ ซึ่งถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70) จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,220 ล้านบาท ทั้ง 3 โครงการตั้งอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา มีกำลังการผลิตโครงการละ 8 เมกะวัตต์ รวม 24 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยดำเนินการแล้วเสร็จระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2556 ถึงเดือนมีนาคม 2557 และจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 1/2556
โดยในปีนี้ จะบันทึกเป็นรายได้ร้อยละ 90 คิดเป็นเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท และรับรู้รายได้ในปี 2557 จำนวน 220 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) หลังปิดงบปี 2555 แตะ 5,000 ล้านบาท การลงนามในสัญญาดังกล่าวสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า DEMCO ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะผู้เชี่ยวชาญในงานโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ทั้งจากพลังงานชีวมวล พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้บริษัทขนาดใหญ่หลายๆ แห่งมอบความไว้วางใจ และส่งงานมาให้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นจุดแข็งของบริษัทที่จะผลักดันให้เติบโตได้อย่างมั่นคง การเริ่มงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ “โรจนะ เอ็นเนอร์ยี่” ทำให้บริษัทมั่นใจได้ว่า ในปีนี้รายได้ของบริษัทจะเติบโตไม่น้อยกว่า 5-10% ตามแผน
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อถึงโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมเวสต์ห้วยบง 2 และเวสต์ห้วยบง 3 ที่ตำบลห้วยบง อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา โดยโครงการเวสต์ห้วยบง 3 ได้ผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ระบบแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 และโครงการเวสต์ห้วยบง 2 เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 โครงการถือเป็นอีกธุรกิจหนึ่งในการเพิ่มฐานรายได้ และกำไรให้แก่บริษัท โดยปีนี้บริษัทคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการร่วมลงทุนโครงการดังกล่าวในรูปเงินปันผลจำนวนประมาณ 150 ล้านบาท และในปี 2557 จำนวนปีละ 200 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น
“จากการที่ DEMCO ได้มุ่งมั่นพัฒนาโครงการพลังงานลมมาตั้งแต่ปี 2552 วันนี้นับว่าก้าวสู่หลักชัยของความสำเร็จ สามารถก่อสร้างโครงการพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเริ่มขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามเป้าหมาย และจากนโยบายภาครัฐที่มีการส่งเสริมการผลิต การใช้ การวิจัย และพัฒนาพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก ซึ่งมีเป้าหมายให้เพิ่มการใช้พลังงานทางเลือกทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 25 ภายในปี 2564 ก็จะเป็นการตอกย้ำความมั่นคงของอุตสาหกรรมไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจของ DEMCO อย่างชัดเจนในอนาคต” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว