หลักทรัพย์บัวหลวง ปล่อย DW01 คุณภาพ 20 ตัว ทั้ง Call Warrant และ Put Warrant อ้างอิงหุ้นสามัญ 11 หลักทรัพย์ ซื้อขายพร้อมกัน 6 ก.พ.56 ชูจุดแข็งดูแลสภาพคล่องเยี่ยมพร้อมขยายอายุเทรด DW และปรับสเปกให้โดนใจนักลงทุนยิ่งขึ้น
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันที่ 6 ก.พ.56 บริษัทจะเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant: DW) 20 ตัว ทั้งประเภทสิทธิในการซื้อ (Call Warrant) และประเภทสิทธิในการขาย (Put Warrant) อ้างอิงหุ้นสามัญ BANPU, BGH, BIGC, BLA, MAKRO, PTTGC, SCC, TCAP, TMB, IVL และ SPALI โดยจะซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 28 ส.ค.56 และจะครบกำหนดอายุวันที่ 3 ก.ย.56
สำหรับ DW01 ที่เสนอขายในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เพื่อรองรับ DW ที่กำลังจะหมดอายุในช่วงกลางเดือน ก.พ.56 ซึ่งปัจจุบันได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน นอกจากนี้ หลักทรัพย์บัวหลวงยังได้เล็งเห็นโอกาสในการลงทุน จึงได้เสนอขาย Put Warrant อ้างอิงหุ้นสยามแม็คโคร (MAKR01PA) และหุ้นศุภาลัย (SPAL01PA) พร้อมกับ Call Warrant ในหุ้นอ้างอิงเดียวกันที่บริษัทได้เสนอขายอยู่ในปัจจุบัน เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่ชื่นชอบการจับจังหวะทำกำไรจาก DW ทั้งขาขึ้น และขาลง คาดว่า DW01 ทั้ง 2 ตัว จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับ Put Warrant ในหุ้นอ้างอิงตัวอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน เช่น CPALL, BIGC, LH, และ PS ที่บริษัทได้เคยเสนอขายไป
“หลักทรัพย์บัวหลวงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย โดยบริษัทได้เพิ่มอายุของ DW01 ที่เสนอขายในครั้งนี้ให้ยาวนานขึ้น จากเดิม 6 เดือน เป็น 7 เดือน และยังออกแบบให้มีสถานะ In the money (ITM) ตั้งแต่ต้น ซึ่งจะทำให้ราคาของ DW01 เคลื่อนไหวตามราคาหุ้นอ้างอิงได้ดีกว่า DW ที่ออกมาในสถานะ At the money (ATM) และ Out of the money (OTM) เพราะ DW ประเภทนี้จะมีมูลค่าเวลาที่ลดลงในแต่ละวันค่อนข้างสูง หากถือครองไว้นานจะทำให้นักลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวัง จึงจำเป็นต้องซื้อขาย DW ในระยะสั้น ทำให้มีโอกาสผิดพลาดจากการลงทุนค่อนข้างสูง” นายบรรณรงค์กล่าว
นายบรรณรงค์ ยังได้กล่าวเตือนนักลงทุนให้ลงทุนใน DW ด้วยความเข้าใจ และระมัดระวัง เนื่องจากยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับวันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW (Last trading day) โดยนักลงทุนควรขาย DW ที่ถือครองในกระดานก่อนวันซื้อขายวันสุดท้าย เนื่องจากกำไร และขาดทุนที่เกิดขึ้นในตลาดไม่ต้องรวมคำนวณภาษี แต่หากนักลงทุนยังถือ DW ผ่านพ้นวันซื้อขายวันสุดท้าย จะถือว่ามีความประสงค์ใช้สิทธิอัตโนมัติจาก DW นั้น โดยเงินส่วนต่างจากการใช้สิทธิ (หากมี) จะถือเป็นเงินได้พึงประเมินซึ่งต้องนำไปคำนวณรวมเพื่อเสียภาษีประจำปี ไม่ว่านักลงทุนจะมีกำไร หรือขาดทุนจากการลงทุนใน DW ก็ตาม