จับตาเด็ก “เพื่อไทย” ยึด กคช.หลังบีบ “ผู้ว่าฯ” พ้นตำแหน่ง

จับตา! ขั้วรัฐบาลสั่งปลด “ผู้ว่าฯ กคช.” หลังไม่สนองการเมืองที่จ้องฮุบที่ดิน ขณะที่ผลงานดัชนีการทำงานได้คะแนนสูง เจ้าตัวกำชับพนักงานยึดผลประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติภายในองค์กรของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เมื่อคณะกรรมการ (บอร์ด) ของ กคช. ที่มีนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มีมติให้ยกเลิกสัญญาจ้าง นายวิฑูรย์ เจียสกุล ผู้ว่าการ กคช.โดยไม่ให้เหตุผลถึงการให้ออกแต่อย่างใด ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่ได้แต่งตั้งบุคคลที่จะมานั่งรักษาการผู้ว่าการ กคช. แต่คาดว่าน่าจะมีการแต่งตั้ง นางอำภา รุ่งปิติ รองผู้ว่าการ กคช.ซึ่งอาวุโสสูงสุดในปัจจุบัน รักษาการไปพลางๆ ก่อน ส่วนผู้ว่าการ กคช.คนใหม่คาดว่าจะมาจากบุคคลนอกแน่นอน ไม่ใช่ลูกหม้อ กคช.เหมือนในอดีต

แหล่งข่าวจากบอร์ด กคช.ระบุว่า การออกของผู้ว่าฯ กคช.ในครั้งนี้เป็นการจากกันด้วยดี และยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีผลงาน และจากการประเมินผลงานครั้งล่าสุดก็พบว่า นายวิฑูรย์ มีคะแนนประเมินอยู่ที่ 4.2 คะแนน จากเต็ม 5 คะแนน

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการเลิกสัญญาจ้างนั้น บอร์ดพยายามให้นายวิฑูรย์ ยื่นใบลาออกเอง แต่นายวิฑูรย์ไม่ยอมยื่น เนื่องจากในสัญญาว่าจ้างนั้นระบุว่า หากออกก่อนครบวาระการทำงานคือเดือนเมษายน 2556 ก็จะต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นวงเงินตามจำนวนรายได้ที่จะได้รับจนกระทั่งหมดวาระ ซึ่งนายวิฑูรย์มีเงินเดือนๆ ละ 2 แสนบาท เท่ากับว่าต้องจ่ายชดเชยรวม 8 แสนบาท ซึ่งนายวิฑูรย์ไม่ยินยอม เพราะไม่มีเงินชดเชยให้ แต่หากบอร์ดสั่งปลดให้พ้นจากตำแหน่งก็จะต้องจ่ายเงินชดเชยให้นายวิฑูรย์ด้วยเช่นกัน สุดท้ายจึงได้ฉีกสัญญาจ้างฉบับดังกล่าว ทำให้นายวิฑูรย์ต้องออกจากตำแหน่งผู้ว่าการ กคช.ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา และกำหนดว่าจะมาอำลาพนักงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 มกราคมนั้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา เพราะมีคำสั่งจากทางผู้ใหญ่ว่าไม่ต้องเข้าไป จนสุดท้าย นายวิฑูรย์ก็ต้องยกเลิกแผน และในวันเดียวกันนี้ ทางบอร์ดก็มีการประชุมกันอีกรอบ

“จากการตรวจสอบสาเหตุที่นายวิฑูรย์ถูกบีบให้ลาออกนั้น เนื่องจากไม่ยอมสนองความต้องการทางการเมือง โดยเฉพาะในเรื่องการขายที่ดินบางแปลง เนื่องจาก กคช.มีที่ดินที่มีศักยภาพทั่วประเทศอยู่หลายแปลง เพราะมีแผนที่จะนำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาโครงการเพื่อขายเพื่อนำรายได้เข้าองค์กร ขณะที่ฝ่ายการเมืองเองก็ต้องการซื้อที่ดินเพื่อนำไปพัฒนาเองด้วย”

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม 2555 นายวิฑูรย์ได้พูดคุยกับพนักงาน กคช.ว่า “ไม่ว่าตัวเองจะพบเจอกับมรสุมอะไรก็ตาม ขอให้พนักงานทุกคนยึดหลักผลประโยชน์ของ กคช.เป็นหลัก”