“เคที ซีมิโก้” แจงปีหน้าดีลไอบีต่างประเทศอื้อ เล็งนำหุ้นลาวเข้าเทรดอย่างน้อย 3 บริษัท ดีลซื้อกิจการเวียดนาม พร้อมตั้งเป้าเป็น บล.ทำธุรกิจครอบคลุมแถบอินโดไชน่า
นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคที ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ KTZ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทได้มีการออกไปทำธุรกิจในต่างประเทศในแถบอินโดจีน ซึ่งขณะนี้ไปแล้ว เช่น ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม ในการเข้าไปตั้งสาขาในการให้บริการค้าหลักทรัพย์ และที่ปรึกษาทางการเงิน ส่วนมาเลเซีย สิงคโปร์ นั้นเป็นลักษณะการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ในการเข้ามาซื้อกิจการ หาแหล่งลงทุน และเงินลทุน
ทั้งนี้ ในปีหน้าบริษัทรับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่บริษัทลาวในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาวอย่างน้อย จำนวน 3 บริษัท และบริษัทเป็นที่ปรึกษาในการซื้อกิจการ (M&A)ที่เวียดนาม ประมาณ 2-3 ดีล จากการที่เศรษฐกิจเวียดนามไม่ดีทำให้เกิดดีลM&A จำนวนมาก โดยในปี 2555 ทำไปแล้วจำนวน 2 บริษัท ขณะที่ในประเทศไทยเป็นที่ปรึกษาในการนำบริษัทจดทะเบียน จำนวน 4 บริษัท
สำหรับสัดส่วนรายได้วาณิชธนกิจปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 10% ของรายได้รวม แต่ 50% ของรายได้วาณิชธนกิจมาจากงานในต่างประเทศมากกว่า 50% ซึ่งแนวโน้มการรับงานวาณิชธกิจในต่างประเทศมากขึ้น จากที่บริษัทได้มีการเตรียมพร้อมในการไปทำงานรองรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน ซึ่งการที่บริษัทได้มีการออกไปทำธุรกิจก่อนทำให้ได้เปรียบในการทำธุรกิจ ซึ่งเวียดนามบริษัทไปตั้งสาขามาแล้ว 4 ปี พม่า 1 ปี และลาว 2 ปี
นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคที ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ KTZ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทได้มีการออกไปทำธุรกิจในต่างประเทศในแถบอินโดจีน ซึ่งขณะนี้ไปแล้ว เช่น ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม ในการเข้าไปตั้งสาขาในการให้บริการค้าหลักทรัพย์ และที่ปรึกษาทางการเงิน ส่วนมาเลเซีย สิงคโปร์ นั้นเป็นลักษณะการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ในการเข้ามาซื้อกิจการ หาแหล่งลงทุน และเงินลทุน
ทั้งนี้ ในปีหน้าบริษัทรับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่บริษัทลาวในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาวอย่างน้อย จำนวน 3 บริษัท และบริษัทเป็นที่ปรึกษาในการซื้อกิจการ (M&A)ที่เวียดนาม ประมาณ 2-3 ดีล จากการที่เศรษฐกิจเวียดนามไม่ดีทำให้เกิดดีลM&A จำนวนมาก โดยในปี 2555 ทำไปแล้วจำนวน 2 บริษัท ขณะที่ในประเทศไทยเป็นที่ปรึกษาในการนำบริษัทจดทะเบียน จำนวน 4 บริษัท
สำหรับสัดส่วนรายได้วาณิชธนกิจปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 10% ของรายได้รวม แต่ 50% ของรายได้วาณิชธนกิจมาจากงานในต่างประเทศมากกว่า 50% ซึ่งแนวโน้มการรับงานวาณิชธกิจในต่างประเทศมากขึ้น จากที่บริษัทได้มีการเตรียมพร้อมในการไปทำงานรองรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน ซึ่งการที่บริษัทได้มีการออกไปทำธุรกิจก่อนทำให้ได้เปรียบในการทำธุรกิจ ซึ่งเวียดนามบริษัทไปตั้งสาขามาแล้ว 4 ปี พม่า 1 ปี และลาว 2 ปี