xs
xsm
sm
md
lg

AIT มั่นใจรั้งคุณภาพหุ้นปันผล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่นฯ เดินหน้าให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมรักษาตำแหน่ง
หุ้นปันผลคุณภาพ หลังมุ่งมั่นดำเนินนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ขณะงวด 6 เดือนแรกปีนี้จ่ายปันผลไปแล้วอัตราหุ้นละ 1.25 บาท พร้อมประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารปี 2556 กลับมาคึก หลังภาคเอกชนได้รับใบอนุญาต 3G ย่านความถี่ 2.1 GHz ส่งผลให้มีการลงทุนด้านโครงข่ายหลายหมื่นล้านบาท พร้อมดันรัฐวิสาหกิจผลักดันโครงการประมูลขนาดใหญ่ออกมา ชี้ผลการดำเนินงานปีหน้าเติบโต 15%

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจบริการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ นอกเหนือจากมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้มีการขยายตัว และเติบโตอย่างน่าพอใจแล้ว บริษัทฯ ยังรักษานโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง ซึ่งงวด 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2555 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผล
ระหว่างกาลไปแล้วอัตรา 1.25 บาทต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,826.8 ล้านบาท กำไรสุทธิ 169.7 ล้านบาท

“ที่ผ่านมา AIT ขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทฯ ที่จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอันดับต้นๆ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปี 2552 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 3.50 บาท ปี 2553 จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 4.50 บาท ในปี 2554 จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 5.00 บาท และสำหรับงวดครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ก็ยังคงดำเนินนโยบายในการจ่ายเงินปันผลเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน สำหรับผลการดำเนินงานรวม 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.2555) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,762.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 285.4 ล้านบาท” นายศิริพงษ์กล่าว

โดยผู้บริหาร AIT กล่าวถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในปี 2556 คาดว่าจะกลับมาคึกคัก หลังจากเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2555 คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มีมติให้ใบอนุญาประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ให้แก่ผู้ชนะการประมูลโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (Internation Mobile Telecommunications : IMT) ย่านความถี่ 2.1 GHz ซึ่งก็คือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด และบริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด และทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ดำเนินการเรื่องออกใบอนุญาตให้แก่ทั้ง 3 บริษัทเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีอายุ 15 ปีนับตั้งแต่วันที่ กทค. มีมติให้ใบอนุญาต
 

“ภาพรวมของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารปีหน้าคึกคักแน่ เพราะไม่มีปัญหาเรื่องภาวะน้ำท่วมเข้ามากระทบ และขณะนี้กสทช.ได้มอบใบอนุญาต 3G ย่านความถี่ 2.1 GHz ให้แก่เอกชนทั้ง 3 รายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องทำตามเงื่อนไขในการประกอบกอบกิจการโทรคมนาคม โดยจะต้องจัดให้มีโครงข่ายโทรคมนาคมครอบคลุมทุกจังหวัด และครอบคลุมจำนวนประชากรไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 ของจำนวนประชากรทั้งหมดภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันได้รับใบอนุญาต และร้อยละ 80 ของจำนวนประชากรทั้งหมด และภายใน 4 ปี นับจากวันที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งขณะนี้บริษัทเอกชนได้ประกาศงบลงทุนแล้ว โดยแต่ละบริษัทงบลงทุนอยู่ระดับหมื่นล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้อุตสาหกรรมในปีหน้ากลับมาคึกคักอย่างแน่นอน” นายศิริพงษ์กล่าว

ขณะเดียวกัน ทางด้านรัฐวิสาหกิจอย่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ กสท และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือทีโอที ต้องมีแผนขยายโครงข่ายเพื่อแข่งขันกับภาคเอกชนมากขึ้นซึ่งหมายความว่าจะเป็นปัจจัยผลักดันให้มีการประมูลโครงการขนาดใหญ่ออกมา อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มูลค่างานที่เปิดประมูลที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาครัฐ รวมไปถึงงานภาคเอกชน ที่ AIT มีศักยภาพในการเข้ารับงานได้ มีมูลค่าประมาณเกือบหมื่นล้านบาท (Market Focus Value) ซึ่งหาก AIT ได้งานในส่วนนี้ก็จะเข้ามาเป็นมูลค่างานที่อยู่ระหว่างการรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในปี 2556
 

ส่วนปี 2555 นั้น บริษัทฯ คาดว่า จะมีรายได้รวมมากกว่า 4,000 ล้านบาท และบริษัทฯ คาดว่าในปี 2556 ผลการดำเนินงานจะเติบโตประมาณ 15% จากปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น