เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ ไตรมาส 3 ปีนี้กำไร 242 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปี 54 ที่ทำไว้ 53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 362% เหตุรายได้ตลอดจนกำไรที่สูงขึ้น ผลจากเน้นเพิ่มผลผลิต และการลดอัตราของเสียในสายการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และราคาวัตถุดิบได้ดี
นางวรลักษณ์ องค์โฆษิต กรรมการบริหาร บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 242.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 52.46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 190.13 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 362.43%
สำหรับไตรมาส 3 ปี 55 บริษัท และบริษัทย่อยนี้มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 1,757 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 2,122 ล้านบาท เพราะบริษัท เคซีอี เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งประสบภัยน้ำท่วมเมื่อปลายปี 54 ยังดำเนินการผลิตไม่เต็มกำลังการผลิตปกติ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีรายได้ตลอดจนกำไรที่สูงขึ้นในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 1,507 ล้านบาท ในไตรมาส 2 เป็น 1,757 ล้านบาท ในไตรมาส 3 หรือเพิ่มขึ้น 16.5% และมีผลกำไรสูงขึ้นจาก 77.9 ล้านบาท เป็น 242.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 210% ผลจากการที่บริษัทและบริษัทย่อยเน้นเรื่้องการเพิ่มผลผลิต และการลดอัตราของเสียในสายการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และราคาวัตถุดิบได้อย่างดี
สำหรับไตรมาส 4 ปีนี้ 55 ผู้บริหารของบริษัทมีความมั่นใจว่า วิกฤตเศรษฐกิจในภาคพื้นยุโรปจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท ยอดขาย และการดำเนินงานของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
นางวรลักษณ์ องค์โฆษิต กรรมการบริหาร บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 242.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 52.46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 190.13 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 362.43%
สำหรับไตรมาส 3 ปี 55 บริษัท และบริษัทย่อยนี้มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 1,757 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 2,122 ล้านบาท เพราะบริษัท เคซีอี เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งประสบภัยน้ำท่วมเมื่อปลายปี 54 ยังดำเนินการผลิตไม่เต็มกำลังการผลิตปกติ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีรายได้ตลอดจนกำไรที่สูงขึ้นในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 1,507 ล้านบาท ในไตรมาส 2 เป็น 1,757 ล้านบาท ในไตรมาส 3 หรือเพิ่มขึ้น 16.5% และมีผลกำไรสูงขึ้นจาก 77.9 ล้านบาท เป็น 242.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 210% ผลจากการที่บริษัทและบริษัทย่อยเน้นเรื่้องการเพิ่มผลผลิต และการลดอัตราของเสียในสายการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และราคาวัตถุดิบได้อย่างดี
สำหรับไตรมาส 4 ปีนี้ 55 ผู้บริหารของบริษัทมีความมั่นใจว่า วิกฤตเศรษฐกิจในภาคพื้นยุโรปจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท ยอดขาย และการดำเนินงานของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
