ธนาคาร HSBC คาด ศก.ไทย ปีนี้เติบโตได้ 6.3% จากการลงทุนของเอกชน และภาคท่องเที่ยว ส่วนปีหน้าขยายตัวได้ 4.5% ชี้ผลจากมาตรการ QE3 ทำเงินทุนไหลเข้าเอเชียมากขึ้น แต่จะไม่กระทบเงินเฟ้อ พร้อมคาด ธปท. จะลด ดบ.นโยบายลงอีกครั้งในช่วง 1-2 เดือนนี้
นายอองเดร เดอ ซิลวา ผู้อำนวยการบริหารศูนย์วิจัยอัตราดอกเบี้ยตลาดเอเชีย ธนาคาร HSBC ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวถึงอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของประเทศไทยในปีนี้ โดยเชื่อว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 6.3 โดยมาจากการลงทุนภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นหลักทดแทนภาคการส่งออกที่ชะลอตัวลงจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก
ส่วนในปี 2556 นั้น เชื่อว่าจีดีพีของประเทศไทยจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.5 โดยมีการบริโภคของภาคเอกชนเป็นปัจจัยหนุน ซึ่งมองว่าเป็นอัตราการขยายตัวที่ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และคาดว่าการส่งออกจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2556 แต่จะไม่ขยายตัวดีมากนักเหมือนก่อนหน้านี้
สำหรับการใช้นโยบายการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE3) ของสหรัฐฯ นั้น นายอองเดร มองว่า จะทำให้มีเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเอเชียมากขึ้น และเงินแข็งค่าขึ้น แต่จะไม่ทำให้อัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคนี้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากราคาอาหาร และน้ำมันโดยเฉลี่ยยังไม่ปรับสูงขึ้นมากนัก แต่การดูแลนโยบายเศรษฐกิจของทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.75 นั้น คงไม่สามารถลดจำนวนเงินทุนที่จะไหลเข้ามายังประเทศไทยได้ พร้อมทั้งมองว่า ธปท. อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในเดือนนี้ หรือเดือนหน้า