หุ้นไทยลดลง 5 จุด ไร้ปัจจัยผลักดัน คาดดัชนีทรงตัวในกรอบนี้ยาวจนหมดสัปดาห์ นักวิเคราะห์ชี้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีผลต่อหุ้นไทยแค่ระยะสั้น ส่วนระยะยาวยังเชื่อการแก้ไขปัญหาในยุโรปจะมีความคลี่คลาย ภาพรวมเม็ดเงินยังไหลเข้าตลาดเอเชีย ทำให้ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์ไปด้วย
ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ (6 พ.ย.) ปรับตัวอยู่ในแดนลบ โดยปิดที่ระดับ 1,300.84 จุด ลดลง 5.86 จุด หรือ -0.45% มูลค่าการซื้อขาย 33,411.90 ล้านบาท เหตุไร้ปัจจัยสนับสนุน และนักลงทุนยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มองไม่เห็นความคืบหน้าการแก้ไขปัญหายุโรป อีกทั้งนักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนจับตาดูผลการเลือกตั้งที่สหรัฐฯ ก่อน
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 192 หลักทรัพย์ ลดลง 336 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 160 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,451.75 ล้านบาท ปิดที่ 193.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,447.47 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท ลดลง 0.50 บาท CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,231.13 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,199.68 ล้านบาท ปิดที่ 157.50 บาท ลดลง 2.50 บาท และ PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,168.48 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นนั้น จะมีผลกระทบระยะสั้นต่อตลาดหุ้นไทยเท่านั้น โดยแนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) มองว่าดัชนีจะทรงตัวไปจนถึงท้ายสัปดาห์ และโดยรวมสุดท้ายเชื่อว่าปัญหายุโรปจะมีทางออก จากสภาพคล่องตลาดที่เพิ่มขึ้นจากเม็ดเงินที่ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามา ซึ่งโดยรวมยังให้ความสนใจต่อตลาดหุ้นในเอเชียมากกว่าฝั่งยุโรป และสหรัฐฯ ซึ่งหมายถึงจะทำให้ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์จ่ากเรื่องดังกล่าวไปด้วย จึงประเมินแนวรับไว้ที่ 1,295 จุด แนวต้านที่ 1,305 จุด