ไทยออยล์ ให้ “ท๊อป มาริไทม์ เซอร์วิส” เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 90 ล้านบาท เป็น 180 ล้านบาท พร้อมใส่เงินเพิ่มทุนอีก 49.50 ล้านบาท โดยเป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ได้จากการดำเนินงานการเพิ่มทุนของบริษัทย่อยเพื่อรองรับการขยายงาน
นางนิธิมา เทพวนังกูร รองกรรมการอำนวยการ-ด้านการเงินบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัด (TM) ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 ได้มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท ท๊อป มาริไทม์ เซอร์วิส จำกัด (TMS) ซึ่ง TM ถือหุ้นร้อยละ 55 ร่วมกับบริษัท มาร์ซัน จำกัด (Marsun)
อนึ่ง TMS ดำเนินธุรกิจบริการเดินเรือรับส่งลูกเรือ และ/หรือ ขนส่งสัมภาระระหว่างแท่นขุดเจาะในอ่าวไทย (Crew and Utility Boat) หรือการขนส่งทางทะเลในลักษณะอื่นที่เกี่ยวข้องในอ่าวไทย โดยจะเพิ่มทุนจดทะเบียนของ TMS อีก จำนวน 90,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 90,000,000 บาท เป็น 180,000,000 บาท ทั้งนี้ TM ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 55 โดยต้องชำระทุนจดทะเบียนเพิ่มอีก จำนวน 49,500,000 บาท ซึ่งมาจากแหล่งเงินทุนหมุนเวียนของ TM
สำหรับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ TMS นั้น ได้กระทำการแล้วเสร็จเมื่อ 23 สิงหาคม 2555 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้รองรับการขยายธุรกิจการรายงานสารสนเทศในครั้งนี้ ไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน และขนาดของรายการไม่เข้าข่ายที่จะต้องรายงานสารสนเทศตามหลักเกณฑ์การได้มา และจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน
นางนิธิมา เทพวนังกูร รองกรรมการอำนวยการ-ด้านการเงินบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัด (TM) ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 ได้มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท ท๊อป มาริไทม์ เซอร์วิส จำกัด (TMS) ซึ่ง TM ถือหุ้นร้อยละ 55 ร่วมกับบริษัท มาร์ซัน จำกัด (Marsun)
อนึ่ง TMS ดำเนินธุรกิจบริการเดินเรือรับส่งลูกเรือ และ/หรือ ขนส่งสัมภาระระหว่างแท่นขุดเจาะในอ่าวไทย (Crew and Utility Boat) หรือการขนส่งทางทะเลในลักษณะอื่นที่เกี่ยวข้องในอ่าวไทย โดยจะเพิ่มทุนจดทะเบียนของ TMS อีก จำนวน 90,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 90,000,000 บาท เป็น 180,000,000 บาท ทั้งนี้ TM ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 55 โดยต้องชำระทุนจดทะเบียนเพิ่มอีก จำนวน 49,500,000 บาท ซึ่งมาจากแหล่งเงินทุนหมุนเวียนของ TM
สำหรับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ TMS นั้น ได้กระทำการแล้วเสร็จเมื่อ 23 สิงหาคม 2555 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้รองรับการขยายธุรกิจการรายงานสารสนเทศในครั้งนี้ ไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน และขนาดของรายการไม่เข้าข่ายที่จะต้องรายงานสารสนเทศตามหลักเกณฑ์การได้มา และจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน
