ASTVผู้จัดการรายวัน - “เฌอร่า” เปิดแผนไตรมาสสุดท้ายปี 55 เดินหน้ารุกเซกเมนต์วัสดุไม้ตกแต่ง เจาะกลุ่มเออเบิร์น ไลฟ์สไตล์ มั่นใจสิ้นปียอดขายโตไม่ต่ำกว่า 30%
นายปิยะพร กลันทกพันธุ์ รองผู้อำนวยการบริหารการตลาด บริษัท โอลิมปิคกระเบื้องไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้เฌอร่าโดยรวมมีอัตราการเติบโตกว่า 20% ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของตลาด และคาดว่าในไตรมาสสุดท้ายที่เหลือของปีนี้ การขยายตัวของกลุ่มผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้จะมีการเติบโตในอัตราเดียวกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่จะส่งผลให้ตลาดยังขยายตัวต่อเนื่องเกิดจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากปัญหาเรื่องน้ำไม่ท่วมหมดไป ทำให้เกิดความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อการซ่อมแซมบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ชะลอซ่อมแซม และตกแต่งบ้านหลังจากน้ำท่วมใหญ่ในปลายปี 2554 ที่จะกลับมาซ่อมแซม และปรับปรุงบ้านใหม่ ซึ่งจะทำให้ตลาดรวมขยายตัวสูงขึ้น ประกอบกับในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีเป็นช่วงเริ่มฤดูกาลขายของวัสดุก่อสร้าง ซึ่งทำให้ยอดขายโดยรวมของตลาดจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น
สำหรับแผนการตลาดในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะเน้นที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่งเฌอร่า ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้ใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มออเบิร์น ไลฟ์สไตล์ ผู้อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว และเพิ่งจะมาเริ่มซ่อมแซมที่อยู่อาศัยในปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีในส่วนตลาดของคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม ทาวน์เฮาส์ และอพาร์ตเมนต์ ที่ขนานไปกับแนวรถไฟฟ้าที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเน้นรูปแบบงานสถาปัตยกรรมที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่งเฌอร่าไปตกแต่งอาคารมากขึ้น
นายปิยะพร กล่าวว่า “ในส่วนของกลยุทธ์ช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับร้านค้าปลีกทั้งขนาดกลาง และขนาดใหญ่ในเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีความพร้อมของผลิตภัณฑ์ไว้บริการอย่างครบไลน์ ทั้งนี้ ได้มีการจัดเตรียมดิสเพลย์เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสแบบเห็นของจริง พร้อมกับการเชื่อมโยงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายนี้เข้ากับระบบออนไลน์ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้ากลุ่มเออเบิร์น ไลฟ์สไตลื ซึ่งคาดว่าในส่วนของตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่งเฌอร่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30%”
นายปิยะพร กลันทกพันธุ์ รองผู้อำนวยการบริหารการตลาด บริษัท โอลิมปิคกระเบื้องไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้เฌอร่าโดยรวมมีอัตราการเติบโตกว่า 20% ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของตลาด และคาดว่าในไตรมาสสุดท้ายที่เหลือของปีนี้ การขยายตัวของกลุ่มผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้จะมีการเติบโตในอัตราเดียวกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่จะส่งผลให้ตลาดยังขยายตัวต่อเนื่องเกิดจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากปัญหาเรื่องน้ำไม่ท่วมหมดไป ทำให้เกิดความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อการซ่อมแซมบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ชะลอซ่อมแซม และตกแต่งบ้านหลังจากน้ำท่วมใหญ่ในปลายปี 2554 ที่จะกลับมาซ่อมแซม และปรับปรุงบ้านใหม่ ซึ่งจะทำให้ตลาดรวมขยายตัวสูงขึ้น ประกอบกับในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีเป็นช่วงเริ่มฤดูกาลขายของวัสดุก่อสร้าง ซึ่งทำให้ยอดขายโดยรวมของตลาดจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น
สำหรับแผนการตลาดในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะเน้นที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่งเฌอร่า ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้ใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มออเบิร์น ไลฟ์สไตล์ ผู้อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว และเพิ่งจะมาเริ่มซ่อมแซมที่อยู่อาศัยในปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีในส่วนตลาดของคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม ทาวน์เฮาส์ และอพาร์ตเมนต์ ที่ขนานไปกับแนวรถไฟฟ้าที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเน้นรูปแบบงานสถาปัตยกรรมที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่งเฌอร่าไปตกแต่งอาคารมากขึ้น
นายปิยะพร กล่าวว่า “ในส่วนของกลยุทธ์ช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับร้านค้าปลีกทั้งขนาดกลาง และขนาดใหญ่ในเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีความพร้อมของผลิตภัณฑ์ไว้บริการอย่างครบไลน์ ทั้งนี้ ได้มีการจัดเตรียมดิสเพลย์เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสแบบเห็นของจริง พร้อมกับการเชื่อมโยงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายนี้เข้ากับระบบออนไลน์ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้ากลุ่มเออเบิร์น ไลฟ์สไตลื ซึ่งคาดว่าในส่วนของตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่งเฌอร่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30%”