นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ. และกลุ่มผู้ร่วมทุน ซึ่งประกอบด้วย SONATRACH และ CNOOC Limited ประสบความสำเร็จในการเจาะหลุมสำรวจที่ 4 และหลุมสำรวจที่ 5 ในแปลงฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ประเทศแอลจีเรีย โดยค้นพบน้ำมันดิบทั้ง 2 หลุม
ผลการเจาะหลุมสำรวจที่ 4 (หลุม OGB-1) ค้นพบน้ำมันดิบในชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม Ordovician (Ouargla Sandstone) โดยได้ทำการทดสอบอัตราการไหลด้วยเทคนิค Drill Stem Test (DST) พบว่า มีอัตราการไหลของน้ำมันดิบประมาณ 485 บาร์เรลต่อวัน ส่วนชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม Triassic Argilo-Gréseux Inférieur (TAG-I) ซึ่ง ปตท.สผ. เคยค้นพบน้ำมันดิบจากหลุมสำรวจหลุมแรก (RTF-1) เมื่อต้นปี 2555 ที่ผ่านมา ก็ค้นพบการไหลของน้ำมันดิบเช่นกัน โดย ปตท.สผ. และกลุ่มผู้ร่วมทุนกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการประเมินปริมาณการไหลของน้ำมันดิบต่อไป
สำหรับหลุมสำรวจที่ 5 (หลุม BOG-1) ค้นพบน้ำมันดิบในชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม Ordovician (Ouargla Sandstone) และ TAG-I เช่นเดียวกัน โดยจากการทดสอบอัตราการไหลด้วยเทคนิค DST พบว่า มีอัตราการไหลของน้ำมันดิบประมาณ 553 บาร์เรลต่อวัน และ 1,870 บาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ
การค้นพบชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม Ordovician (Ouargla Sandstone) ในแปลงฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ ปตท.สผ. ในประเทศแอลจีเรีย
ทั้งนี้ ปตท.สผ. มีแผนการเจาะสำรวจในระยะแรกสำหรับแปลงฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ทั้งหมด 9 หลุม ในช่วงปลายปี 2554 ถึงต้นปี 2556 ปัจจุบัน การเจาะสำรวจผ่านมาแล้วครึ่งทาง โดยได้ทำการเจาะสำรวจไปแล้ว 5 หลุม ค้นพบน้ำมันดิบ จำนวน 4 หลุม และวางแผนเริ่มการเจาะหลุมสำรวจที่ 6 ประมาณปลายเดือนกันยายนนี้
แปลงฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ตั้งอยู่บนบกทางตะวันออกของประเทศแอลจีเรีย มีพื้นที่ประมาณ 5,378 ตารางกิโลเมตร มีผู้ร่วมทุนประกอบด้วย ปตท.สผ. ร้อยละ 24.5 (ผู้ดำเนินการ) SONATRACH (บริษัทน้ำมันแห่งชาติของประเทศแอลจีเรีย) ร้อยละ 51 และ CNOOC Limited (บริษัทผลิตปิโตรเลียมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน) ร้อยละ 24.5 นอกจากนี้ ปตท.สผ. ยังลงทุนในประเทศแอลจีเรียในแหล่งเบอร์ เซบา โครงการแอลจีเรีย 433 เอ และ 416 บี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม
ผลการเจาะหลุมสำรวจที่ 4 (หลุม OGB-1) ค้นพบน้ำมันดิบในชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม Ordovician (Ouargla Sandstone) โดยได้ทำการทดสอบอัตราการไหลด้วยเทคนิค Drill Stem Test (DST) พบว่า มีอัตราการไหลของน้ำมันดิบประมาณ 485 บาร์เรลต่อวัน ส่วนชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม Triassic Argilo-Gréseux Inférieur (TAG-I) ซึ่ง ปตท.สผ. เคยค้นพบน้ำมันดิบจากหลุมสำรวจหลุมแรก (RTF-1) เมื่อต้นปี 2555 ที่ผ่านมา ก็ค้นพบการไหลของน้ำมันดิบเช่นกัน โดย ปตท.สผ. และกลุ่มผู้ร่วมทุนกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการประเมินปริมาณการไหลของน้ำมันดิบต่อไป
สำหรับหลุมสำรวจที่ 5 (หลุม BOG-1) ค้นพบน้ำมันดิบในชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม Ordovician (Ouargla Sandstone) และ TAG-I เช่นเดียวกัน โดยจากการทดสอบอัตราการไหลด้วยเทคนิค DST พบว่า มีอัตราการไหลของน้ำมันดิบประมาณ 553 บาร์เรลต่อวัน และ 1,870 บาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ
การค้นพบชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม Ordovician (Ouargla Sandstone) ในแปลงฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ ปตท.สผ. ในประเทศแอลจีเรีย
ทั้งนี้ ปตท.สผ. มีแผนการเจาะสำรวจในระยะแรกสำหรับแปลงฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ทั้งหมด 9 หลุม ในช่วงปลายปี 2554 ถึงต้นปี 2556 ปัจจุบัน การเจาะสำรวจผ่านมาแล้วครึ่งทาง โดยได้ทำการเจาะสำรวจไปแล้ว 5 หลุม ค้นพบน้ำมันดิบ จำนวน 4 หลุม และวางแผนเริ่มการเจาะหลุมสำรวจที่ 6 ประมาณปลายเดือนกันยายนนี้
แปลงฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ตั้งอยู่บนบกทางตะวันออกของประเทศแอลจีเรีย มีพื้นที่ประมาณ 5,378 ตารางกิโลเมตร มีผู้ร่วมทุนประกอบด้วย ปตท.สผ. ร้อยละ 24.5 (ผู้ดำเนินการ) SONATRACH (บริษัทน้ำมันแห่งชาติของประเทศแอลจีเรีย) ร้อยละ 51 และ CNOOC Limited (บริษัทผลิตปิโตรเลียมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน) ร้อยละ 24.5 นอกจากนี้ ปตท.สผ. ยังลงทุนในประเทศแอลจีเรียในแหล่งเบอร์ เซบา โครงการแอลจีเรีย 433 เอ และ 416 บี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม