มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยส่งเสริมการทำความดีเพื่อสังคม มอบรางวัลโครงการ “เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม ประจำปี 2555 ”ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 มอบทุน 12 ล้านบาท แก่ 6 องค์กรเพื่อสังคม พร้อมเชิดชู 7 บุคคลผู้ทำความดีที่ทำประโยชน์ต่อสังคม เพื่อสร้างกำลังใจแก่ผู้ทำความดี และเพื่อต่อยอดความดี ให้ขยายประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้างมากขึ้น
นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานกรรมการ มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (14 กันยายน 2555) มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่องค์กร และผู้ทำความดีประจำปี 2555 ในโครงการเชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม หนึ่งในโครงการเพื่อสังคมที่ให้การสนับสนุนมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา โดยมอบทุนสนับสนุนรวม 12 ล้านบาทต่อปีแก่ 6 องค์กรเพื่อสังคม ที่ดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่องใน 6 สาขา องค์กรละ 2 ล้านบาท ได้แก่ สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ ในสาขาการพัฒนาห้องสมุด มูลนิธิศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ในสาขาการพัฒนาการศึกษา สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนในสาขาการพัฒนาสังคมชนบท มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ในสาขาการส่งเสริมดนตรี สมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในสาขาการส่งเสริมกีฬา และสถาบันวิมุตตยาลัย ในสาขาการพัฒนาสังคมเมือง ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมของทั้ง 6 องค์กรดังกล่าวให้ต่อเนื่อง และขยายประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้างอย่างยั่งยืน
โดยในปี 2555 นี้ ทั้ง 6 องค์กร ได้คัดเลือกบุคคล และกลุ่มบุคคลผู้ทำความดีด้วยจิตบริสุทธิ์ มุ่งมั่น และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน ใน 6 สาขา สอดคล้องกับเป้าหมาย และวัตถุประสงค์การทำงานของแต่ละองค์กร เพื่อรับรางวัลผู้ทำความดีเพื่อสังคม และรับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อส่งเสริมการทำงานเพื่อสังคมของผู้ทำความดีให้ขยายผลในวงกว้างมากขึ้น โดยในปีนี้ผู้ทำความดีสาขาต่างๆ ได้แก่
สาขาการพัฒนาห้องสมุด คัดเลือกโดย สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ได้แก่ รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ บรรณารักษ์วิชาชีพ และ “ป้ากุล” นักเล่า นักเขียนนิทานสำหรับเด็กที่มีผลงานเขียนหนังสือนิทานเด็กกว่า 50 ชื่อเรื่อง และนางยุพาพร ชุมแสง ครูและบรรณารักษ์ โรงเรียนนารีนุกูล 2 จ.อุบลราชธานี ผู้ผลักดันกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาเยาวชนและชุมชน และผลักดันให้โรงเรียนชนะเลิศการแข่งขันการทำ “หนังสือเล่มเล็ก” ซึ่งเป็นจุดเด่นของโรงเรียน และเป็นที่ยอมรับในแวดวงครูบรรณารักษ์ห้องสมุดโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ
สาขาการพัฒนาการศึกษา คัดเลือกโดย มูลนิธิศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ได้แก่ ผศ.กนก โตสุรัตน์ อธิการบดีผู้บุกเบิก ก่อตั้งมหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ ผู้มุ่งมั่นขยายโอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียนในพื้นที่ให้มีโอกาสศึกษาต่อระดับปริญญาตรี
สาขาการพัฒนาสังคมชนบท คัดเลือกโดย สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ได้แก่ โครงการ “อาคารเย็นศิระ ที่พักพิงยามเจ็บป่วยและแหล่งหล่อหลอมด้านจิตวิญญาณ” โดย มูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ สถานที่พักอาศัยสำหรับผู้ป่วย และญาติที่ยากไร้ ซึ่งเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง หรือโรคเรื้อรังที่รอรับการเยียวยาที่ต้องใช้เวลานานและต่อเนื่อง ซึ่งรองรับผู้ป่วยและญาติเข้าพักกว่า 180,000 คนต่อปี โดยคิดค่าใช้จ่ายเพียงวันละ 5 บาท
สาขาการส่งเสริมดนตรี คัดเลือกโดยมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ได้แก่ นายสมบัติ สิมหล้า หมอแคนผู้พิการทางสายตา เจ้าของฉายา หมอแคนนิ้วทอง เทพแห่งแคน และหมอแคนมหัศจรรย์ ผู้มีลีลาเป่าแคนเป็นแบบฉบับของตัวเอง และยังเป็นหมอแคนคนแรกที่สามารถบรรเลงแคนร่วมกับวงซิมโฟนีออรเคสตรา และวงดนตรีแจ๊ซที่มีชื่อเสียงของโลก
สาขาการส่งเสริมกีฬา คัดเลือกโดย สมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้แก่ นายพิชัย คงศรี และกลุ่มอิสระชน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย เจ้าของโครงการฝึกสอนทักษะฟุตบอลแก่เยาวชนทุกภูมิภาคของไทย เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการเล่นฟุตบอลแก่เยาวชนรุ่นใหม่
สาขาการพัฒนาสังคมเมือง คัดเลือกโดย มูลนิธิวิมุตตยาลัย ได้แก่ โครงการพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามพระราชดำริ พื้นที่ ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นต้นแบบของห้องปฏิบัติการทางสังคมในการพัฒนาชนบท ที่ทำให้ชาวบ้านสามารถพึ่งพาตนเองได้ในทางเศรษฐกิจ และปฎิบัติธรรมไปพร้อมๆ กัน โดยยึดหลักสำคัญคือ การพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับความจำเป็นที่ “เรียบง่ายและประหยัด”
