อดีตผู้จัดการ ตลท. ย้อนรอยคดี “ฟินวัน” เกิดจาก 2 กรณี “ความไม่ซื่อสัตย์-ไม่มีประสิทธิภาพ” กังขาหน่วยงานรัฐมีเอี่ยว จะโยนบาปให้ “ปิ่น” คนเดียวไม่ได้ แนะสังคมยังไม่ควรพิพากษา เพราะยังไม่มีคำตัดสินของศาล
นายเสรี จินตนเสรี อดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นกับกลุ่มบริษัทเงินทุน (บง.) เอกธนกิจ หรือ “ฟินวัน” ของนายปิ่น จักกะพาก ที่กำลังจะมีคำตัดสินออกมานั้น ตนเองมองว่า เรื่องทีเกิดขึ้นดังกล่าว คงจะโทษนายปิ่นคนเดียวคงไม่ได้ เพราะหน่วยงานที่กำกับดูแลในขณะนั้น ย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยถือว่าหย่อนสมรรถนะในการกำกับดูแล เพียงแต่จะหย่อนแค่ไหนก็คงเป็นอีกเรื่อง
นายเสรี กล่าวเสริมว่า กรณีที่เกิดขึ้นเหล่านี้ต้องแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง คือ เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต (honesty) กับเรื่องความมีประสิทธิภาพ (Efficiency) ซึ่งกรณีของนายปิ่น อาจเกิดจากอะไรก็ได้ เพียงแต่อย่าไปกล่าวหาว่าเขาไม่มีความซื่อสัตย์ เพราะตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาของศาลออกมา การไปกล่าวหาเขาในลักษณะนี้เท่ากับผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และยังไม่เป็นธรรมสำหรับนายปิ่นเองด้วย
ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นคงต้องคิดใน 2 ประเด็น คือ honesty กับ efficiency เพราะมันอาจจะเกิดจากอันใดอันหนึ่งก็ได้ หรือเกิดทั้ง 2 อันก็ได้ ไม่มีใครรู้ ส่วน Regulators (หน่วยงานกำกับดูแล) ก็เช่นกัน ในกรอบการควบคุมอาจจะมีปัญหาทั้ง 2 เรื่องนี้ด้วยก็ได้ เพราะ 2 ตัวนี้เป็นพื้นฐานของปัญหา