เอชเอสบีซีประเมินเศรษฐกิจไทย-เอเชียเสี่ยงเพิ่มจากภาคส่งออกที่ชะลอตัวลง คาดโตได้ไม่ถึง 7% แต่ยังคงประมาณจีดีพีที่ 5.5% เหตุการอุปโภคบริโภคเอกชน ใช้จ่ายรัฐยังอุดไหว ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายยังคงเดิม
น.ส.ซู เซียน ลิม นักเศรษฐศาสตร์ ประจำภูมิภาคอาเซียน ธนาคารเอชเอสบีซี เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไว้ที่ 5.5% โดยรับปัจจัยหนุนหลักการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคหลังจากภาวะน้ำท่วมในช่วงปลายปีก่อน และการใช้จ่ายของภาครัฐ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ในระดับ 3% แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะค่อนข้างชะลอตัวลง แต่ก็ยังมีปัจจัยที่อาจทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น โดยดูจากอัตราการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางชนิดที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบ และราคาอาหารโลกที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ยังไม่น่าวิตก เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และปริมาณผลผลิตข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักยังพอเพียง และการควบคุมราคาสินค้าของรัฐบาล จะช่วยประคับประคองแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อได้ในระดับหนึ่ง โดยธนาคารคาดว่าอัตราเงินเฟ้อปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 3.4%
“การเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียซึ่งรวมถึงไทยในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตได้ดีมาก โดยได้รับแรงขับเคลื่อนหลักมาจากปัจจัยในประเทศ แต่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาดูในช่วงต่อไป คือ เรื่องการส่งออกซึ่งเริ่มมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากผลกระทบของเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งปัจจัยที่เกิดขึ้นไม่ใช่แต่ประเทศไทยที่รับผลกระทบ ก็เป็นปัจจัยที่ได้รับทั้งภูมิภาค และการส่งออกของไทยที่คาดว่าจะเติบโตได้ 7% นั้น ยังอาจจะมากเกินไป”
ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังคงตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม ดังนั้น นโยบายการคลังในแง่ของการกระตุ้นเชิงนโยบายจะต้องมีประสิทธิผลมากขึ้น และคาดว่า การขาดดุลงบประมาณในปีนี้มีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2554
น.ส.ซู เซียน ลิม กล่าวอีกว่า จากดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและการลงทุนเพิ่มขึ้น ทำให้สินเชื่อของภูมิภาคเอเชียเติบโตได้ดี และยังคงมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีประเด็นที่ควรระมัดระวังด้วยเช่นกัน โดยอัตราส่วนระหว่างสินเชื่อกับจีดีพีของปี 1997 ที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งขึ้นนั้น อัตราส่วนของสินเชื่อมีมากกว่าจีดีพีของประเทศ 100% ซึ่งจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีบางประเทศภูมิภาคนี้มีอัตราส่วนสินเชื่อเพิ่มขึ้นกว่า 100% ของจีดีพีแล้ว แต่ก็ยังคงไม่น่าเป็นห่วงนัก เนื่องสถานการณ์ต่างๆ ในปัจจุบันดีกว่าช่วงปี 1997 มาก
สำหรับในปี 2555 เอชเอสบีซีคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยไว้ที่ 4.5% อัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 3.8% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 4% ซึ่งสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
ด้านเศรษฐกิจโลกในปี 2555 คาดว่าจะเติบโต 2.5% จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 2.1% เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโต 1.7% จากปีนี้ที่เติบโต 1.8% และกลุ่มยูโรโซนเศรษฐกิจโต 0.3% จากปีนี้ที่ติดลบ 0.6% ขณะที่เศรษฐกิจจีนคาดว่าจะเติบโต 8.8% จากปีก่อนที่เติบโต 8.4%
