“บดินทร์” มั่นใจปีนี้รายได้ “ไพลอน” เข้าเป้า 1,200 ล้านบาทแน่ เหตุงานรับเหมาฐานรากกลับสู่ภาวะปกติ หลังโครงการภาคเอกชนต่างๆ ที่ชะลอการประมูลเพื่อรอดูความชัดเจนของต้นทุน ได้กลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง คุยพร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานต่อเนื่อง เชื่อจากผลงานคุณภาพที่ทำไว้ในตลาดเป็นเวลายาวนาน จะทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานรากชั้นนำในประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจของบริษัทฯ ในครึ่งปีหลังว่า มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก และมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันรายได้ในปีนี้ให้ทะลุ 1,200 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ หลังจากที่สถานการณ์ธุรกิจงานรับเหมาฐานราก (เสาเข็มเจาะ) และงานก่อสร้างในปัจจุบันได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากที่ในช่วงไตรมาส 2/2555 ที่ผ่านมา ธุรกิจได้ชะลอตัวลงเนื่องจากผู้ประกอบการภาคเอกชนหลายรายชะลอการเปิดประมูลโครงการ เพื่อรอดูความชัดเจนของต้นทุนใหม่หลังใช้นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และรอดูความชัดเจนของราคาประเมินที่ดินใหม่ ซึ่งขณะนี้หลายโครงการได้เปิดประมูลงานแล้ว ทำให้มีงานเข้ามาในตลาดจำนวนมาก อีกทั้งคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะได้แรงหนุนจากโครงการภาครัฐบาลเพิ่มเข้ามาอีกหลายโครงการ
โดยล่าสุด มีโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) และสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) กำลังจะเริ่มงานก่อสร้างซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมงานฐานรากให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง
“มั่นใจว่าปีนี้รายได้ 1,200 ล้านบาท คงเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่วางไว้เพราะหลังจากเริ่มเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 งานรับเหมาต่างๆ ก็เริ่มเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว และเป็นจำนวนมาก จะเห็นได้จากในเดือนกรกฎาคมเพียงเดือนเดียว PYLON ได้รับงานถึง 300 ล้านบาท จึงถือได้ว่าขณะนี้ สถานการณ์ธุรกิจฐานรากเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังที่ถือเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ จึงยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ดี ซึ่งขณะนี้ PYLON ก็เดินหน้าเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เพราะที่ผ่านมา เราได้ฝากงานคุณภาพไว้ในตลาดเป็นจำนวนมาก และกับผู้รับเหมาหลักหลายรายเราก็เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน” นายบดินทร์กล่าว
สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2555 ที่ออกมาต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนว่า มาจาก 2 ปัจจัยหลัก ปัจจัยแรกเป็นเรื่องของช่วง Low Season ของธุรกิจร่วมกับลูกค้าภาคเอกชนชะลอการเปิดประมูลโครงการเพื่อรอดูความชัดเจนของต้นทุนใหม่หลังการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท จึงทำให้มีงานน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน จึงมีผลต่อเนื่องให้ไม่เกิดการประหยัดจากขนาดการผลิต (Economies of scale) อัตรากำไรขั้นต้น (Gross margin) จึงลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน และขณะนี้สถานการณ์ของธุรกิจได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนปัจจัยที่สองมาจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญในบริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PAE จำนวน 18.2 ล้านบาทของบริษัทย่อย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการฟ้องร้องตามกฎหมาย จึงทำให้งบการเงินรวมบริษัทย่อยมีผลประกอบการลดลงดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2/2555 (เมษายน-มิถุนายน 2555) ในงบการเงินรวมบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 0.095 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.001 บาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2554 ที่ทำได้ 18.396 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.09 บาท ส่วนในงวด 6 เดือน (มกราคม-มิถุนายน 2555) มีกำไรสุทธิ 42.835 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.21 บาท เทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 43.651 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.22 บาท ในขณะที่ในงบเฉพาะกิจการบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 2/2555 มีกำไรสุทธิ 12.871 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.06 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 ที่ทำได้ 16.469 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.08 บาท ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 53.537 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.27 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 41.547 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.21 บาท
