“โกลเบล็ก” คาดราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ $1,620/Oz หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้ แนะนำให้ทยอยขาย “วายแอลจี” ชี้มีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง เบื้องต้น ประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,609 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะค่อยๆขยับขึ้นในลักษณะ Sideway
บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ ประเมินราคาทองคำเมื่อวันที่ 17ส.ค. ว่า ราคาทองคำในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ $1.90/Oz มาอยู่ที่ $1,616.4/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศอยู่ที่ 1,614.1-1,619.26/Oz) ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อจากการที่นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีออกมาให้การสนับสนุน ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในการแก้ไขวิกฤตหนี้ยูโรโซน ทำให้นักลงทุนในตลาดเกิดความมั่นใจว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนนั้นสามารถแก้ไขได้ ประกอบกับตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้จึงเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำสามารถรับขึ้นได้อีกครั้ง
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ (20-24 ส.ค.) คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ $1,575-1,630Oz โดยคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ $1,620/Oz หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้แนะนำให้นักลงทุนทยอยขายทองคำออกไปบางส่วนเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงลง
ด้าน บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ ระบุถึงแนวโน้มวันที่ 20 ส.ค. ว่า เยอรมนีอาจจะสนับสนุนการซื้อพันธบัตรของประเทศที่เผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงิน เช่น สเปน และอิตาลี ซึ่งตลาดขานรับถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ที่กล่าวว่า เยอรมนีมีพันธสัญญาในการทำทุกวิถีทางเท่าที่จะสามารถทำได้เพื่อให้ยูโรยังคงอยู่ต่อไป นับว่าสอดคล้องกับความคิดเห็นของนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่กล่าวว่า อีซีบีจะดำเนินการภายในขอบเขตหน้าที่เพื่อปกป้องสกุลเงินยูโร ทำให้มีแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำเพราะได้ปัจจัยหนุนจากการที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ประกอบกับจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเริ่มสร้างบ้านเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 746,000 ยูนิต ที่ลดลงเกินคาด 1.1% จากเดือนก่อนหน้า บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 2,000 ราย มาอยู่ที่ 366,000 ราย
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ 365,000 ราย ยิ่งเป็นแรงหนุนพยุงราคาทองคำไว้ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงอ่อนไหวเป็นไปตามทิศทางเศรษฐกิจ ซึ่งนักลงทุนสามารถติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจในการลงทุน ดังนั้น ทางวายแอลจีประเมินว่า ราคาทองคำในช่วงนี้ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนเข้าซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway หากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,633 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง เบื้องต้น ประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,609 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะค่อยๆ ขยับขึ้นในลักษณะ Sideway อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,633 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้ แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,609 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,602 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป
** ทองคำแท่ง (96.50%)** แนวรับ 1,609 (23,980 บาท) 1,602 (23,870 บาท) 1,595 (23,780 บาท) แนวต้าน 1,633 (24,340 บาท) 1,640 (24,440 บาท) 1,655 (24,670 บาท) **GOLD FUTURES (GFQ12)** แนวรับ 1,609 (24,120 บาท) 1,602 (24,010 บาท) 1,595 (23,910 บาท) แนวต้าน 1,633 (24,480 บาท) 1,640 (24,580 บาท) 1,655 (24,810 บาท) และ **SILVER FUTURES (SVQ12)** แนวรับ 27.85 (884 บาท) 27.55 (875 บาท) 27.35 (869 บาท) แนวต้าน 28.55 (907 บาท) 28.80 (914 บาท) 29.15 (925 บาท)