ฝรั่งเริ่มทิ้งหุ้น
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นไปอย่างเงียบเหงาซบเซา ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นต่อเนื่อง แต่ไม่มากนัก กระทั่งส่งท้ายสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ จึงเกิดการเทขายหนักเกือบ 2,000 ล้านบาท และเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้า
ดัชนีปิดที่ระดับ 1,223.91 จุด ลดลง 0.49 จุด มูลค่าซื้อขาย 26,923 ล้านบาท ต่างชาติขาย 1,858 ล้านบาท
ตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันคือ แก่วงตัวขึ้นลงในวงจำกัด เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ และรอคอยมาตรการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปเท่านั้น นักลงทุนทั้งโลกจึงชะลอการลงทุน ทำให้ทองคำ น้ำมัน และตลาดหุ้นแทบจะหยุดนิ่ง รวมทั้งตลาดหุ้นย่านเอเชีย และตลาดหุ้นไทย
สำหรับสัปดาห์หน้าก็คาดว่าภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกก็ยังซบเซาต่อไป และตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐฯ เมื่อคืนวันศุกร์ก็ขยับขึ้นอย่างอ่อนๆ ไม่ได้ส่งผลในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นย่านเอเชียแต่อย่างใด จึงถือว่ายังขาดข่าวดีที่กระตุ้นตลาดหุ้นไทยต่อไป และดัชนีน่าจะอยู่ในช่วงพักฐานเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่การที่ต่างชาติหันมาขายหนัก จะส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาเพราะนักลงทุนจะต้องหันมาติดตามความเคลื่อนไหว เพราะหากต่างชาติขายต่อเนื่อง การพักฐานอาจแปรเป็นการปรับฐาน แต่ถ้าต่างชาติหยุดขาย สภาพตลาดก็คงไม่เกิดความผันผวนรุนแรง และมีสภาพตลาดของการรอคอยต่อไป
ส่วนปัจจัยเชิงบวกเล็กๆ เกิดขึ้นเฉพาะหุ้นรายกลุ่มเท่านั้น โดยราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นระดับ 96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะทำให้หุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีได้รับอานิสงส์ และอาจปรับตัวขึ้นได้ ซึงจะเป็นตัวช่วยพยุงดัชนีไม่ให้ผันผวนมากนัก
และถ้าจะเก็งกำไรระหว่างรอคอยปัจจัยชี้นำใหม่ ก็อาจพอมีหุ้นเพียง 2 กลุ่มนี้เท่านั้นที่เล่นแก้เหงาได้
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นไปอย่างเงียบเหงาซบเซา ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นต่อเนื่อง แต่ไม่มากนัก กระทั่งส่งท้ายสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ จึงเกิดการเทขายหนักเกือบ 2,000 ล้านบาท และเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้า
ดัชนีปิดที่ระดับ 1,223.91 จุด ลดลง 0.49 จุด มูลค่าซื้อขาย 26,923 ล้านบาท ต่างชาติขาย 1,858 ล้านบาท
ตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันคือ แก่วงตัวขึ้นลงในวงจำกัด เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ และรอคอยมาตรการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปเท่านั้น นักลงทุนทั้งโลกจึงชะลอการลงทุน ทำให้ทองคำ น้ำมัน และตลาดหุ้นแทบจะหยุดนิ่ง รวมทั้งตลาดหุ้นย่านเอเชีย และตลาดหุ้นไทย
สำหรับสัปดาห์หน้าก็คาดว่าภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกก็ยังซบเซาต่อไป และตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐฯ เมื่อคืนวันศุกร์ก็ขยับขึ้นอย่างอ่อนๆ ไม่ได้ส่งผลในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นย่านเอเชียแต่อย่างใด จึงถือว่ายังขาดข่าวดีที่กระตุ้นตลาดหุ้นไทยต่อไป และดัชนีน่าจะอยู่ในช่วงพักฐานเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่การที่ต่างชาติหันมาขายหนัก จะส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาเพราะนักลงทุนจะต้องหันมาติดตามความเคลื่อนไหว เพราะหากต่างชาติขายต่อเนื่อง การพักฐานอาจแปรเป็นการปรับฐาน แต่ถ้าต่างชาติหยุดขาย สภาพตลาดก็คงไม่เกิดความผันผวนรุนแรง และมีสภาพตลาดของการรอคอยต่อไป
ส่วนปัจจัยเชิงบวกเล็กๆ เกิดขึ้นเฉพาะหุ้นรายกลุ่มเท่านั้น โดยราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นระดับ 96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะทำให้หุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีได้รับอานิสงส์ และอาจปรับตัวขึ้นได้ ซึงจะเป็นตัวช่วยพยุงดัชนีไม่ให้ผันผวนมากนัก
และถ้าจะเก็งกำไรระหว่างรอคอยปัจจัยชี้นำใหม่ ก็อาจพอมีหุ้นเพียง 2 กลุ่มนี้เท่านั้นที่เล่นแก้เหงาได้
