บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ มั่นใจปีนี้รายได้โต 20% ตามเป้าหมาย คาดไตรมาส 2 รายได้เติบโตหลังส่งมอบงานได้ทันตามกำหนด เชื่อส่งออกต่างประเทศได้สัดส่วนเพิ่มเป็น 25% ตามแผน มอง AEC เปิดโอกาสสินค้าไทยจำหน่ายต่างประเทศเพิ่ม พร้อมคืนกำไรให้สังคมด้วยกิจกรรม CSR ต่อเนื่อง ชี้บริษัทฯ และสังคมต้องโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
นายศิริพงษ์ บุญตาม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด หรือ QTC เปิดเผยว่า ยังเชื่อว่าในปีนิ้จะมีอัตราการเติบโตของรายได้ไม่น้อยว่า 20% จากปี 2554 โดยในไตรมาส 2 คาดว่ามีอัตราการเติบโตของรายได้มากกว่าไตรมาสแรกของปี 2555 เนื่องจากสามารถส่งมอบงานตามคำสั่งลูกค้าได้ตามกำหนด รวมถึงมีการขยายงานไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการวางแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายต่างประเทศจาก 15% เป็น 25% ควบคู่ไปกับการศึกษาถึงความคุ้มค่าต่อการจำหน่ายไปยังประเทศที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้า ขณะที่การจำหน่ายในประเทศบริษัทฯ ได้มีการเข้าประมูลงานการไฟฟ้า และงานภาคเอกชนที่บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าที่มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า ตั้งแต่ขนาด 30-30,000 KVA มีกำลังการผลิตประมาณ 1,000,000 KVA โดยมีการจำหน่ายในประเทศในสัดส่วน 85% และอีก 15% เป็นการส่งออกไปยังต่างประเทศ ลูกค้ามีทั้งภาครัฐบาล และเอกชน
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิต ปรับปรุงประสิทธิภาพ หลังจากที่โรงงานส่วนขยายจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2555 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าได้มากขึ้น และหลากหลายขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวของรายได้ไม่ต่ำกว่า 10% ในทุกปีตามเป้าหมายที่บริษัทฯ วางไว้
สำหรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ทางบริษัทฯ มองว่า เป็นโอกาสที่จะแสดงให้ต่างประเทศเห็นว่าสินค้าที่ผลิตโดยคนไทยมีมาตรฐานทัดเทียมมาตรฐานสากล แข่งขันได้ และความคุ้มค่ากับราคา เราเชื่อว่า สินค้าของเราสามารถแข่งขันได้ทุกตลาด ด้วยการทำงานที่พิถีพิถัน และเทคโนโลยีที่ทันสมัย จากการเตรียมตัวและพัฒนาศักยภาพขององค์กรเพื่อเข้าสู่ตลาด AEC มาพอสมควร ทำให้คาดว่าการเปิด AEC จะทำให้ตลาดสินค้าของ QTC ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
นายศิริพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นที่ดำเนินการในธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าควรศึกษา และเข้าใจโครงสร้างของธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าที่จะเป็นไปตาม Season เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ ประกอบกับควรศึกษาถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการพัฒนาผลิตภัฒน์ และพนักงานอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการจัดการอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับออเดอร์สินค้าที่กระจายในแต่ละไตรมาสให้ใกล้เคียงกัน การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการส่งมอบสินค้าให้ตรงตามกำหนด เพื่อรับรู้เป็นรายได้โดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ บริษทฯ ยังดำเนินนโยบายรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดกับกิจกรรม “ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ร่วมใจคืนสมดุลสู่ธรรมชาติป่าชายเลน” เพื่อคืนพื้นที่ป่าชายเลนกลับสู่ธรรมชาติ ที่นอกจากจะได้ทำเพื่อสังคมแล้ว ยังถือเป็นกิจกรรมที่ให้พนักงานได้มีส่วนร่วม และทำกิจกรรมร่วมกัน ตลอดจนการสร้างจิตสำนึกรับผิดชอบ และตระหนักถึงการทำดีตอบแทนสังคมอีกด้วย ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง จากก่อนหน้าที่มีกิจกรรมด้านสังคมมากมาย ภายใต้โครงการ “คิวทีซี ทำดีเพื่อพ่อ” เช่น “ร่วมใจ คืนสมดุลสู่ธรรมชาติ ปลูกป่าบก ปีที่ 3” กิจกรรมที่ทางบริษัทฯ ทำต่อเนื่อง 3 ปี เป็นการจับมือร่วมกันกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดระยอง ชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ผู้นำชุมชน โรงเรียน และชาวบ้าน ทำการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ต.ระหาร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากพนักงาน และคนในท้องถิ่น
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม “คิวทีซี ร่วมใจ ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม” ที่จัดขึ้นหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 มีการลงพื้นที่บริจาคสิ่งของ และหลังน้ำลดมีการช่วยฟื้นฟูวัด และโรงเรียนในจังหวัดลพบุรี รวมไปถึงการบริจาคหม้อแปลงขนาด 100 kVA แก่โรงเรียนมาบเตย ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เพื่อยกระดับการเรียนการสอนในการเพิ่มเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทางบริษัทฯ เห็นว่ามีความสำคัญ และจำเป็นต่อการศึกษาของเยาวชน จึงได้ให้การสนับสนุนให้มีการติดตั้งในเร็วๆ นี้อีกด้วย
“นอกจากการทำงานที่มีประสิทธิภาพแล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญด้าน CSR ด้วยการจัดแผนก CSR ขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบโดยตรง ซึ่งคาดหวังว่า หากบริษัทฯ ดำเนินกิจกรรมตามแนวทางปฏิบัติของมาตรฐาน มอก.26000 และมีการพัฒนาปรับปรุงให้เหมาะสมกับลักษณะขององค์กรอย่างต่อเนื่องแล้ว จะทำให้องค์กร พนักงาน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน ตามปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ 3 ประการ คือ การบริหารจัดการที่มีจริยธรรม มีคุณธรรม และโปร่งใส คุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการให้บริการอยู่ในระดับสากล และมุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และสิทธิเสรีภาพของบุคคล” นายศิริพงษ์กล่าว
