ไม่เหลือข่าวดีที่รอคอย
ตลาดหุ้นส่งท้ายสัปดาห์ปิดฉากอย่างเงียบหงอย ดัชนีทรุดตัวลงต่อ โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขายหลุด 1,150 จุด แต่กระเตื้องขึ้นมาได้ แต่แนวโน้มใหญ่ก็ถูกประเมินว่ายังอยู่ในช่วงขาลงมากกว่าขึ้นเพราะไม่มีข่าวดีที่จะเข้ามาหนุน นอกจากปัจจัยลบ โดยเฉพาะปัญหาหนี้ของกลุ่มยุโรป
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,152. 91 จุด ลดลง 6.14 จุด มูลค่าซื้อขาย 25,987 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขาย 1,790 ล้านบาท
สถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกย่ำแย่กันถ้วนหน้า ย่านเอเชียเมื่อวันศุกร์ทรุดลงทั้งแถบ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปก็ปรับตัวลงเกือบ 1% แต่ดาวโจนส์เปิดตลาดบวกเกือบ 50 จุด ขณะที่ราคาทองคำและราคาน้ำมันดิงลงแรง และส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและปิตรเคมี ซึ่งทรุดลงแรงทั้ง 2 กลุ่ม ฉุดดัชนีให้ปักหัวลง
ในช่วงสั้นไม่มีข่าดีใดที่รอคอย แต่ข่าวร้ายยังทยอยมาเรื่อยๆ โดยสถาบันการเงินชั้นำของโลกถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลง สะท้อนมุมมองในเชิงลบต่อวิกฤตหนี้ยุโรป ส่วนปัจจัยภายนอกก็ไม่มีความเคลื่อนไหวในด้านบวก ขณะที่ต่างชาติยังขายไม่เลิก แม้ไม่ขายในลักษณะทุบหุ้น แต่การขายระดับพันล้านบาท ก็ถือเป็นแรงต้านสำคัญในการปรับตัวขึ้นของตลาด
สัปดาห์หน้าปิดฉากงวด 6 เดือนแรก ภาพรวมของตลาดถูกประเมินว่าจะเป้นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ และอาจจะทรุดตัวได้ต่อเนื่อง นักลงทุนจึงต้องระมัดระวังไม่รีบช้อนหุ้น เพราะโอกาสซื้อของถูกยังมีอยู่ และถ้าจะซื้อก็ไม้รู้ว่าจะเลือกกลุ่มไหนดี เพราะไม่มีกลุ่นไหนที่จะดีเด่นสวนตลาดที่ซบเซาได้
ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ควรแตะต้องคือ พลังงาน และปิโตรเคมี เพราะแนวโน้มอยู่ในช่วงปรับฐานเต็มตัว
ตลาดหุ้นส่งท้ายสัปดาห์ปิดฉากอย่างเงียบหงอย ดัชนีทรุดตัวลงต่อ โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขายหลุด 1,150 จุด แต่กระเตื้องขึ้นมาได้ แต่แนวโน้มใหญ่ก็ถูกประเมินว่ายังอยู่ในช่วงขาลงมากกว่าขึ้นเพราะไม่มีข่าวดีที่จะเข้ามาหนุน นอกจากปัจจัยลบ โดยเฉพาะปัญหาหนี้ของกลุ่มยุโรป
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,152. 91 จุด ลดลง 6.14 จุด มูลค่าซื้อขาย 25,987 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขาย 1,790 ล้านบาท
สถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกย่ำแย่กันถ้วนหน้า ย่านเอเชียเมื่อวันศุกร์ทรุดลงทั้งแถบ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปก็ปรับตัวลงเกือบ 1% แต่ดาวโจนส์เปิดตลาดบวกเกือบ 50 จุด ขณะที่ราคาทองคำและราคาน้ำมันดิงลงแรง และส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและปิตรเคมี ซึ่งทรุดลงแรงทั้ง 2 กลุ่ม ฉุดดัชนีให้ปักหัวลง
ในช่วงสั้นไม่มีข่าดีใดที่รอคอย แต่ข่าวร้ายยังทยอยมาเรื่อยๆ โดยสถาบันการเงินชั้นำของโลกถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลง สะท้อนมุมมองในเชิงลบต่อวิกฤตหนี้ยุโรป ส่วนปัจจัยภายนอกก็ไม่มีความเคลื่อนไหวในด้านบวก ขณะที่ต่างชาติยังขายไม่เลิก แม้ไม่ขายในลักษณะทุบหุ้น แต่การขายระดับพันล้านบาท ก็ถือเป็นแรงต้านสำคัญในการปรับตัวขึ้นของตลาด
สัปดาห์หน้าปิดฉากงวด 6 เดือนแรก ภาพรวมของตลาดถูกประเมินว่าจะเป้นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ และอาจจะทรุดตัวได้ต่อเนื่อง นักลงทุนจึงต้องระมัดระวังไม่รีบช้อนหุ้น เพราะโอกาสซื้อของถูกยังมีอยู่ และถ้าจะซื้อก็ไม้รู้ว่าจะเลือกกลุ่มไหนดี เพราะไม่มีกลุ่นไหนที่จะดีเด่นสวนตลาดที่ซบเซาได้
ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ควรแตะต้องคือ พลังงาน และปิโตรเคมี เพราะแนวโน้มอยู่ในช่วงปรับฐานเต็มตัว