เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ กำไรไตรมาสแรกปีนี้ตก เหตุยอดขายต่ำ เนื่องจากลูกค้าอยู่ระหว่างเปลี่ยนโมเดลใหม่ทำให้ออเดอร์หด พร้อมเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนในท็อปเทค ไดมอนด์ ทูลส์ หวังขยายการดำเนินงานให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจของบริษัท ดันรายได้ และกำไรเติบโต
นายสามิตต์ ผลิตกรรม รองประธานกรรมการ บริหาร บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 134.16 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 177.11 ล้านบาท หรือลดลง 42.95 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 24.25%
โดยงวดนี้บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,800 ล้านบาท ลดลง 914 ล้านบาท จากปี 54 ที่ทำไว้ 2,714 ล้านบาท หรือลดลง 34% ผลจากรายได้ธุรกิจรับจ้างประกอบเครื่องปรับอากาศ 649 ล้านบาท ลดลง 1,004 ล้านบาท หรือ 61% เนื่องจากลูกค้าอยู่ระหว่างการเปลี่ยนโมเดล จึงทำให้คำสั่งเลื่อนออกไป และการคืนออเดอร์ที่ไม่ได้ผลิตงานต้นน้ำบางส่วนให้แก่ลูกค้า ส่วนรายได้การขายชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำความเย็นเพิ่มขึ้น 8% หรือเพิ่มจาก 8,025 ล้านบาท ในปี 54 เป็น 215 ล้านบาทในปีนี้ ส่วนใหญ่มาจากการรับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นทั้งผลิตภัณฑ์เดิมและใหม่
ขณะที่รายได้จากการขายชิ้นส่วนยานยนต์ก็เพิ่มขึ้นจากการได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น ทั้งงานท่ออะลูมิเนียม และงานฉีดพลาสติก ส่วนรายได้ธุรกิจอื่นลดลง สำหรับต้นทุนขายปีนี้ลดลง ผลจากสัดส่วนการผลิตชิ้นส่วน ซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่ามีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ขณะค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น สวนทางกับค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ต่ำลง
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทที่ประชุมเมื่อ 4 พ.ค.55 ได้มีมติอนุมัติให้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท ท็อปเทค ไดมอนด์ ทูลส์ จำกัด ด้วยการใช้เงินมูลค่า 81 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่้มเป็น 60% ของทุนจดทะเบียนของ ท็อปเทค ไดมอนด์ ทูลส์ หวังขยายการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของบริษัท ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มรายได้ และกำไรของบริษัท
นายสามิตต์ ผลิตกรรม รองประธานกรรมการ บริหาร บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 134.16 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 177.11 ล้านบาท หรือลดลง 42.95 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 24.25%
โดยงวดนี้บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,800 ล้านบาท ลดลง 914 ล้านบาท จากปี 54 ที่ทำไว้ 2,714 ล้านบาท หรือลดลง 34% ผลจากรายได้ธุรกิจรับจ้างประกอบเครื่องปรับอากาศ 649 ล้านบาท ลดลง 1,004 ล้านบาท หรือ 61% เนื่องจากลูกค้าอยู่ระหว่างการเปลี่ยนโมเดล จึงทำให้คำสั่งเลื่อนออกไป และการคืนออเดอร์ที่ไม่ได้ผลิตงานต้นน้ำบางส่วนให้แก่ลูกค้า ส่วนรายได้การขายชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำความเย็นเพิ่มขึ้น 8% หรือเพิ่มจาก 8,025 ล้านบาท ในปี 54 เป็น 215 ล้านบาทในปีนี้ ส่วนใหญ่มาจากการรับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นทั้งผลิตภัณฑ์เดิมและใหม่
ขณะที่รายได้จากการขายชิ้นส่วนยานยนต์ก็เพิ่มขึ้นจากการได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น ทั้งงานท่ออะลูมิเนียม และงานฉีดพลาสติก ส่วนรายได้ธุรกิจอื่นลดลง สำหรับต้นทุนขายปีนี้ลดลง ผลจากสัดส่วนการผลิตชิ้นส่วน ซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่ามีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ขณะค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น สวนทางกับค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ต่ำลง
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทที่ประชุมเมื่อ 4 พ.ค.55 ได้มีมติอนุมัติให้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท ท็อปเทค ไดมอนด์ ทูลส์ จำกัด ด้วยการใช้เงินมูลค่า 81 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่้มเป็น 60% ของทุนจดทะเบียนของ ท็อปเทค ไดมอนด์ ทูลส์ หวังขยายการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของบริษัท ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มรายได้ และกำไรของบริษัท