“ไทยคม” ยันพร้อมฟันโฆษณา 3 รายทางทีวีดาวเทียม โฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง แต่ต้องรอหนังสือจาก กสทช. อย่างเป็นทางการก่อน เพราะอาจโดนฟ้องร้องได้ ระบุ การใช้วิธีระงับสัญญาณจะส่งผลกระทบต่อทั้งหมด 400 ช่อง ยอมรับมีการระงับโฆษณาในช่องทีวีดาวเทียมเกินจริง
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียง สั่งระงับการโฆษณาออกอากาศผลิตภัณฑ์เอนไซม์เจนิฟู๊ด ซันคลาร่า และเกร็กคู เข้าข่ายโอ้อวดเกินจริง โดยยืนยันว่า ทางไทยคมพร้อมประสานงานกับทางช่องที่ออกอากาศโฆษณาอาหารและยาเกินจริงตามที่ กสทช. ต้องการ แต่ต้องรอให้ทาง กสทช. ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการมาก่อน
ทั้งนี้ หากไทยคมเข้าไปดำเนินการโดยทันที อาจส่งผลกระทบทำให้ไทยคมถูกฟ้องร้องได้ และในทางปฏิบัติ ไทยคมทำได้เพียงการแจ้งไปยังช่องทีวีที่มีการออกอากาศ ไม่สามารถระงับสัญญาณได้ เนื่องจากจะส่งผลทั้งหมด 400 ช่อง
“ไทยคม เป็นผู้ให้บริการเช่าใช้ช่องสัญญาณ ซึ่งโดยหลักแล้ว ต้องขึ้นอยู่กับช่องที่ออกอากาศมากกว่า แต่ยินดีให้ความร่วมมือกับ กสทช. หากร้องขอเข้ามา”
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมบอร์ด กสทช. ได้มีมติสั่งระงับโฆษณาอาหารและยาทางทีวีดาวเทียม 3 ชนิด คือ เอนไซน์เจนิฟูดส์ ซันคลาร่า และเกร็กคู ซึ่งได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วว่า เป็นโฆษณาเกินจริง โดย กสทช.จะเข้าพบไทยคมเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้วันที่ 30 เมษายน 2555 นี้
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของไทยคมนั้น เตรียมพร้อมในการให้บริการดาวเทียมดวงใหม่ที่จะยิงขึ้นวงโคจร 4 ดวง คือ ไทยคม 6 กลางปี 2556 ที่ยังเป็นดาวเทียมภายใต้สัญญาสัมปทาน ส่วนภายใต้ใบอนุญาต ประกอบด้วยไทยคม 7 ที่ 120 องศาตะวันออก ไทยคม 8 หรือไอพีสตาร์ 2 เพื่อรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์ และไทยคม 9 ที่ 50.5 องศาตะวันออก เพื่อรักษาวงโคจรของประเทศ
“หากได้ข้อสรุปเรื่องไอพีสตาร์ 2 คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่เกิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท เน้นขยายบริการให้ครอบคลุมมากขึ้นจากเดิมที่ให้บริการเฉพาะออสเตรเลียเป็นหลัก ขณะที่ดาวเทียมไอพีสตาร์ในปัจจุบัน ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้งานจาก25% เป็น 40-50% ในปีนี้”
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ดีทีวี และกลุ่มจีเอ็มเอ็ม แซท ขายกล่องรับสัญญาณดาวเทียมในระบบเอชดี ซึ่งจะทำให้ผู้ชมสามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 ในระบบเอชดีได้ รวมทั้ง 5 ช่องเอชดีจากทางจีเอ็มเอ็ม และดีทีวี ตั้งเป้ายอดขาย 5 แสนกล่องภายใน 2 ปี