ทาทา สตีลฯ เผย เอ็น.ที.เอส.สตีล กรุ๊ป หยุดการผลิตโครงการ MBF ชั่วคราวต่อเนื่องไปจนถึงกันยายน 55 คาดจะผลิตเมื่อความผันผวนของราคาวัตถุดิบเข้าสู่สภาวการณ์ที่เหมาะสม ขณะยังผลิตเหล็กแท่งโดยเตาหลอม Electric Arc Furnace ใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบในการผลิตยันรักษาการเป็นผู้นำตลาดในไทย
นายปิยุช กุปต้า กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH แจ้งว่า ตามที่บริษัทได้แจ้งหยุดการผลิตเป็นการชั่วคราวของโครงการ MBF ของบริษัท เอ็น.ที.เอส. สตีลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NTS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เมื่อเดือนสิงหาคม 54 เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่มีราคาสูง (เช่น สินแร่เหล็ก และ ถ่านโค้ก) ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตของ NTS สูงขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบนั้น
บริษัทแจ้งว่า การหยุดการผลิตเป็นการชั่วคราวของโครงการ MBF ดังกล่าว ยังคงต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน 55 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว NTS ยังคงดำเนินการผลิตเหล็กแท่งโดยเตาหลอม Electric Arc Furnace (EAF) ซึ่งใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบในการผลิตต่อไป โดยบริษัทยังคงรักษาสถานะผู้นำตลาดเหล็กทรงยาวในประเทศไทยได้เช่นเดิม
ทั้งนี้ บริษัทจะติดตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบอย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะกลับมาทำการผลิตจากโครงการ MBF เมื่อความผันผวนของราคาวัตถุดิบกลับเข้าสู่สภาวการณ์ที่เหมาะสม
นายปิยุช กุปต้า กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH แจ้งว่า ตามที่บริษัทได้แจ้งหยุดการผลิตเป็นการชั่วคราวของโครงการ MBF ของบริษัท เอ็น.ที.เอส. สตีลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NTS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เมื่อเดือนสิงหาคม 54 เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่มีราคาสูง (เช่น สินแร่เหล็ก และ ถ่านโค้ก) ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตของ NTS สูงขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบนั้น
บริษัทแจ้งว่า การหยุดการผลิตเป็นการชั่วคราวของโครงการ MBF ดังกล่าว ยังคงต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน 55 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว NTS ยังคงดำเนินการผลิตเหล็กแท่งโดยเตาหลอม Electric Arc Furnace (EAF) ซึ่งใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบในการผลิตต่อไป โดยบริษัทยังคงรักษาสถานะผู้นำตลาดเหล็กทรงยาวในประเทศไทยได้เช่นเดิม
ทั้งนี้ บริษัทจะติดตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบอย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะกลับมาทำการผลิตจากโครงการ MBF เมื่อความผันผวนของราคาวัตถุดิบกลับเข้าสู่สภาวการณ์ที่เหมาะสม
