ธปท.เผยเงินบาทอ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค เหตุข่าวตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ยุโรปไม่ดีนัก ประกอบกับต่างชาติเริ่มขายพันธบัตรไทยออกมาบางส่วน แรงซื้อทองคำช่วงราคาตก และผู้นำเข้าไทยซื้อเครื่องจักร-วัตถุดิบนำเข้า ด้านสายนโยบายการเงินเปิดผลสำรวจเหตุการณ์ระเบิดที่หาดใหญ่กระทบเฉพาะในพื้นที่ คาดอีก 3 เดือนน่าฟื้นตัวได้ พร้อมนำเป็นปัจจัยประเมินภาพเศรษฐกิจไทยเดือน มี.ค.นี้
นางสุชาดา กิระกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า เงินบาทอ่อนค่าในขณะนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นๆในภูมิภาค เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกาศออกมาไม่ดีนัก อีกทั้งเศรษฐกิจยุโรปก็มีข่าวในเชิงลบของประเทศสเปน จึงกลบข่าวในมุมมองที่ดีช่วงที่ผ่านมา ทำให้บรรยากาศออกมาในเชิงที่นักลงทุนทั่วโลกลดความเสี่ยงลง และมีผลให้ราคาหุ้น และค่าเงินเอเชียอ่อนค่าลง
ทั้งนี้ ในส่วนของเงินบาทอ่อนค่าจากจาก 3 ปัจจัยสำคัญ โดยประเด็นแรก คือ นักลงทุนต่างชาติเริ่มขายพันธบัตรไทยออกมาบ้าง แม้ปริมาณการขายพันธบัตรไทยยังไม่มากนักเมื่อเทียบกับเงินที่เข้ามาซื้อพันธบัตรก่อนหน้าแล้ว ทำให้ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.จนถึงปัจจุบัน ยอดสุทธิการลงทุนในพันธบัตรของต่างชาติยังเป็นบวกอยู่ ส่วนการลงทุนในหุ้นของนักลงทุนต่างชาติก็ยังมีอยู่บ้าง
ประเด็นที่ 2 นักลงทุนหันมาลงทุนทองคำในช่วงที่ราคาลดลง และ 3 เงินบาทเริ่มอ่อนค่าตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.พ.ทำให้ผู้นำเข้ามีการแลกซื้อเงินดอลลาร์ เพื่อนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบจากต่างประเทศ
“ขณะนี้ เงินทุนเคลื่อนย้ายมายังไทยเป็นแบบ 2 ทิศทางอยู่ ซึ่งในส่วนของเงินทุนไหลออกก็ยังไม่มากนัก ส่วนสถานการณ์ค่าเงินจะเป็นลักษณะนี้ต่อไปแค่ไหนยังตอบไม่ได้ เพราะคนต่างรอดูปัจจัยใหม่ๆ และมองว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นตกลงมีผลจากข่าวนี้แค่ช่วงสั้น แต่ปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อไปได้จากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ และความต้องการในหลายภาคส่วนยังมีอยู่ ทำให้อุปสงค์ภายในประเทศยังไปได้ด้วยดี” รองผู้ว่าการธปท.กล่าว
คาดระเบิดหาดใหญ่กระทบศก. มี.ค.
ด้านนายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธปท.กล่าวว่า สายนโยบายการเงินได้ทำการประเมินภาพเศรษฐกิจไทย หลังจากเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจ.ยะลาเมื่อช่วงที่ผ่านมา พบว่า เศรษฐกิจในพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งภาคท่องเที่ยวเป็นด่านแรกที่ได้รับผลกระทบนี้ แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว ในช่วง 3 เดือนต่อจากนี้ น่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะความเชื่อมั่นยังดีอยู่ ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้จะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ธปท.จะนำเหตุการณ์ดังกล่าวมาประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยล่าสุดประจำเดือน มี.ค.นี้ และจะรายงานให้ทราบในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ต่อไป
“แม้เหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นในตัวเมืองอ.หาดใหญ่ ถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ แต่มองว่าภูเก็ตยังเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใน อ.หาดใหญ่จะเป็นกลุ่มประเทศมาเลเซียส่วนใหญ่มีสัดส่วน 12% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด อีกทั้งภาคใต้ยังมีสินค้าที่สร้างรายได้สำคัญหลายอย่าง จึงน่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นได้บ้าง”