ทรุดสั่งลาหยุดยาว
ตลาดหุ้นวันพุธ ทรุดตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากถูกปัจจัยลบทั้งภายใน และภายนอกกระหน่ำใส่ ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นกองหนุนสำคัญก็ถอยฉาก เหลือยอดซื้อสุทธิเพียง 121 ล้านบาท ทำให้ไม่มีแรงต้านการขาย ดัชนีจึงถอยรูดหลุดต่ำกว่า 1,200 จุดอีกครั้ง
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,198.09 ลดลง 12.98 จุด มูลค่าซื้อขาย 24,282 ล้านบาท โดยหุ้นกลุ่มใหญ่ร่วงกันเป็นแถว ส่วนหุ้นเก็งกำไรก็หงอย และมีเพียงบางตัวเท่านั้นที่ขึ้นสวนตลาด แต่ก็ไม่สามารถกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายโดยรวมได้
ดัชนีที่ปรับตัวลงแรง เป็นผลจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง โดยย่านเอเชียลงกัน 1%-2% ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปในช่วงเย็นลงไปกว่า 1% ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ล่วงหน้าทรุดเกือบ 100 จุด ราคาทองคำปรับฐานต่อ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงเหลือ 103 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนปัจจัยภายในก็มีแต่เรื่องร้าย ทั้งสถานการณ์การเมืองที่กำลังคุกรุ่น กรณีการรวบรัดเสนอแผนปรองดอง และการเร่งขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยังมีความกังวลเรื่องนโยบายค่าเงินอ่อนตัว รวมทั้งการแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทยของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้งสถานการณ์ช่วงสงกรานต์ ซึ่งกังวลถึงการก่อการร้ายในกรุงเทพฯ
นอกจากนั้น พรุ่งนี้ยังเป็นวันส่งท้ายวันหยุดยาว 4 วันติดต่อ ซึ่งมีผลกระทบจิตวิทยาต่อการลงทุนด้วย เพราะนักลงทุนจะไม่กล้าซื้อหุ้นเก็บ โดยกลัวเกิดเหตุการณ์ร้ายในช่วงวันหยุด และไม่สามารถขายหุ้นได้ทัน
ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คงจะหวังความคึกคักกลับคืนไม่ได้เพราะตลาดจะมีสภาพซบเซา ดัชนีหุ้นอย่างเก่งก็ทรง หรืออาจจะทรุดลงต่อ แต่แม้หุ้นจะปรับตัวลงอีก ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาจะช้อนเก็บ เพราะก่อนหยุดสงกรานต์ ยังมีเวลาที่จะเลือกซื้อหุ้นต้นทุนต่ำได้ และก่อนสงกรานต์ไม่เห็นปัจจัยที่จะทำให้หุ้นเด้งกลับแรงๆ ได้เลย
ตลาดหุ้นวันพุธ ทรุดตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากถูกปัจจัยลบทั้งภายใน และภายนอกกระหน่ำใส่ ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นกองหนุนสำคัญก็ถอยฉาก เหลือยอดซื้อสุทธิเพียง 121 ล้านบาท ทำให้ไม่มีแรงต้านการขาย ดัชนีจึงถอยรูดหลุดต่ำกว่า 1,200 จุดอีกครั้ง
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,198.09 ลดลง 12.98 จุด มูลค่าซื้อขาย 24,282 ล้านบาท โดยหุ้นกลุ่มใหญ่ร่วงกันเป็นแถว ส่วนหุ้นเก็งกำไรก็หงอย และมีเพียงบางตัวเท่านั้นที่ขึ้นสวนตลาด แต่ก็ไม่สามารถกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายโดยรวมได้
ดัชนีที่ปรับตัวลงแรง เป็นผลจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง โดยย่านเอเชียลงกัน 1%-2% ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปในช่วงเย็นลงไปกว่า 1% ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ล่วงหน้าทรุดเกือบ 100 จุด ราคาทองคำปรับฐานต่อ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงเหลือ 103 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนปัจจัยภายในก็มีแต่เรื่องร้าย ทั้งสถานการณ์การเมืองที่กำลังคุกรุ่น กรณีการรวบรัดเสนอแผนปรองดอง และการเร่งขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยังมีความกังวลเรื่องนโยบายค่าเงินอ่อนตัว รวมทั้งการแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทยของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้งสถานการณ์ช่วงสงกรานต์ ซึ่งกังวลถึงการก่อการร้ายในกรุงเทพฯ
นอกจากนั้น พรุ่งนี้ยังเป็นวันส่งท้ายวันหยุดยาว 4 วันติดต่อ ซึ่งมีผลกระทบจิตวิทยาต่อการลงทุนด้วย เพราะนักลงทุนจะไม่กล้าซื้อหุ้นเก็บ โดยกลัวเกิดเหตุการณ์ร้ายในช่วงวันหยุด และไม่สามารถขายหุ้นได้ทัน
ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คงจะหวังความคึกคักกลับคืนไม่ได้เพราะตลาดจะมีสภาพซบเซา ดัชนีหุ้นอย่างเก่งก็ทรง หรืออาจจะทรุดลงต่อ แต่แม้หุ้นจะปรับตัวลงอีก ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาจะช้อนเก็บ เพราะก่อนหยุดสงกรานต์ ยังมีเวลาที่จะเลือกซื้อหุ้นต้นทุนต่ำได้ และก่อนสงกรานต์ไม่เห็นปัจจัยที่จะทำให้หุ้นเด้งกลับแรงๆ ได้เลย