“ห้างบิ๊กซี” เตรียมชงผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง 23.6 ล้านหุ้น ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 หวังนำเงินที่ได้ไปใช้เปิดสาขาย่อยในปั๊มน้ำมันบางจาก ให้ได้ 300 สาขา ใน 5 ปี ตามแผนขึ้นสู่ผู้ค้าปลีกอันดับ 1 ของประเทศ
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 คณะกรรมการบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือBIGC ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ อนุมัติให้ดำเนินการจัดสรรหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 23.6 ล้านหุ้น ให้แก่นักลงทุนเฉพาะราย และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน โดยวิธีเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (private placement) โดยหุ้นดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 2.9 ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วของบิ๊กซี การระดมทุนครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ขยายธุรกิจของบิ๊กซี ตามที่ประกาศไว้ในเดือนตุลาคม 2554 ที่จะเป็นผู้ค้าปลีกสมัยใหม่อันดับ 1 ของประเทศไทย และเป็นผู้ประกอบการที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค
ทั้งนี้ บิ๊กซี จะใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงครั้งนี้ ในการขยายกิจการและลดภาระหนี้ตามแผนการขยายธุรกิจในปี 2555 โดยเงินจำนวนดังกล่าว จะไปสนับสนุนการขยายกิจการสาขาย่อยของบิ๊กซี รวมถึงการขยายสาขามินิบิ๊กซีในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ที่มีศักยภาพจะขยายได้ถึง 300 สาขา ใน 5 ปีข้างหน้า ตามความร่วมมือระหว่างบิ๊กซีกับ บมจ.บางจาก ปิโตรเลียม โดยเมื่อได้มีการพิจารณาเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงแล้ว คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เลื่อนการออก และเสนอขายหุ้นสามัญแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนตุลาคม 2554 โดยจะยังไม่ดำเนินการในระยะเวลาอันใกล้นี้ และจะนำไปพิจารณาในเวลาที่เหมาะสมต่อไป
โดยการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงครั้งนี้ จะถูกเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 ในวันที่ 30 เมษายน 2555 เพื่ออนุมัติต่อไป บริษัทฯ คาดว่า การดำเนินการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงครั้งนี้ จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ของปี 2555
นายอีฟ เบรบอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบิ๊กซี เปิดเผยว่า “การระดมทุนครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามแผนขยายกิจการอย่างต่อเนื่องที่เราได้วางไว้สำหรับปี 2555 และเราเชื่อว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะดำเนินการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อเสริมศักยภาพในการเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ และเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินในการขยายธุรกิจตามแผนการขยายธุรกิจในปี 2555 พร้อมกับเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวอีกด้วย”