คุมเชิงชั่วคราว
ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐ คืนวันจันทร์เคลื่อนไหวอย่างเงียบเหงา ดัชนีทุกตลาดแกว่งตัวช่วงแคบมาก โดยย่านยุโรปปรับตัวลงกันเบาบาง ขณะที่ดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเพียง 6 จุด ราคาทองคำขยับขึ้นมาที่ 1,663 ดอลลาร์ต่อออนส์ ราคาน้ำมันทรงตัวอยู่ที่ระดับ 107 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ซึ่งถือว่า ปัจจัยภายนอก ไม่ได้ชี้นำในทางบวกหรือลบต่อตลาดหุ้นไทยแต่อย่างใด
ส่วนภายในก็ไม่มีปัจจัยใหม่ ทั้งด้านบวกและลบแต่อย่างใด ส่งผลให้ไม่สามารถประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นวันอังคารนี้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ มีความผันผวนเกิดขึ้นรุนแรง ระหว่างการซื้อขายในภาคเช้า ซึ่งคึกคักสดใส จนดัชนีทำลายสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปี ผ่านทะลุ1200 จุดขึ้นมา แต่ภาคบ่ายกับทรุดตัวลง เพราะแรงขายจากนักลงทุนในประเทศ ซึ่งหวั่นไหวในความสูง และชิงทำกำไร โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศ ยังคงปักหลักขายอย่างหนัก จนดัชนีกลับมาปิดติดลบ0.06 จุด
แต่นักลงทุนต่างชาติ ก็ยังซื้อสุทธิต่อเนื่องอีกกว่า 3,200 ล้านบาท โดยยอดซื้อสุทธิสะสมตั้งแต่ต้นปีนี้ รวมแล้วกว่า 70,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมาก และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ผลักดันให้ดัชนีขยับขึ้นมากว่า 100 จุดในม้วนเดียวในรอบนี้
ตลาดหุ้นกำลังเข้าสู่จุดหัวเลี้ยวหัวต่อ จะฝ่าด่าน1200 จุดได้หรือไม่ เพราะถือว่าได้แตะแล้ว แต่แตะ1200 จุดแล้ว จะไปต่อหรือหยุดพัก ส่วนปัจจัยที่จะสนับสนุนให้ดัชนีเดินหน้าต่อไป ตอนนี้เหลือเพียงประการเดียวคือ แรงซื้อจากต่างชาติเท่านั้น และต้องซื้อหนักๆ เพราะปัจจัยบวกด้านอื่น นักลงทุนขานรับไปหมดแล้ว
หุ้นกลุ่มที่จะเป็นตัวนำตลาด หุ้นกลุ่มไหนจะเด่น ก็อยู่ในภาวะที่คาดเดาลำบาก เพราะหมุนเวียนเปลี่ยนกลุ่มเล่นกันแต่ละวัน แต่โดยรวมแล้ว กลุ่มหลักๆ หุ้นขนาดใหญ่ ราคาเริ่มเต็มอิ่มแล้ว ซึมซับข่าวต่างไปหมด และแทบไม่มีช่องที่จะขยับขึ้นไป ขณะที่ราคาถือว่าไม่ถูกแล้ว จะเก็งกำไรระยะสั้น ส่วนต่างราคาก็แคบลง และอาจไม่คุ้มกับความเสี่ยง
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่อาจประเมินความแน่นอนได้ ไม่รู้ว่าหุ้นจะเดินหน้าต่อหรือปรับฐานลงมา นักลงทุนอาจต้องปรับกลยุทธ์ หันมายืนคุมเชิงกันชั่วคราว และเชื่อว่า คงไม่มีใครกล้าบุกไล่ซื้อแล้ว เพราะเริ่มกลัวความสูงกัน
และดัชนีก็ไต่ขึ้นมาสู่ความลาดชัน กำหนดกลยุทธ์ไม่ดี อาจพลาดพลั้งติดดอยได้
ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐ คืนวันจันทร์เคลื่อนไหวอย่างเงียบเหงา ดัชนีทุกตลาดแกว่งตัวช่วงแคบมาก โดยย่านยุโรปปรับตัวลงกันเบาบาง ขณะที่ดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเพียง 6 จุด ราคาทองคำขยับขึ้นมาที่ 1,663 ดอลลาร์ต่อออนส์ ราคาน้ำมันทรงตัวอยู่ที่ระดับ 107 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ซึ่งถือว่า ปัจจัยภายนอก ไม่ได้ชี้นำในทางบวกหรือลบต่อตลาดหุ้นไทยแต่อย่างใด
ส่วนภายในก็ไม่มีปัจจัยใหม่ ทั้งด้านบวกและลบแต่อย่างใด ส่งผลให้ไม่สามารถประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นวันอังคารนี้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ มีความผันผวนเกิดขึ้นรุนแรง ระหว่างการซื้อขายในภาคเช้า ซึ่งคึกคักสดใส จนดัชนีทำลายสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปี ผ่านทะลุ1200 จุดขึ้นมา แต่ภาคบ่ายกับทรุดตัวลง เพราะแรงขายจากนักลงทุนในประเทศ ซึ่งหวั่นไหวในความสูง และชิงทำกำไร โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศ ยังคงปักหลักขายอย่างหนัก จนดัชนีกลับมาปิดติดลบ0.06 จุด
แต่นักลงทุนต่างชาติ ก็ยังซื้อสุทธิต่อเนื่องอีกกว่า 3,200 ล้านบาท โดยยอดซื้อสุทธิสะสมตั้งแต่ต้นปีนี้ รวมแล้วกว่า 70,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมาก และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ผลักดันให้ดัชนีขยับขึ้นมากว่า 100 จุดในม้วนเดียวในรอบนี้
ตลาดหุ้นกำลังเข้าสู่จุดหัวเลี้ยวหัวต่อ จะฝ่าด่าน1200 จุดได้หรือไม่ เพราะถือว่าได้แตะแล้ว แต่แตะ1200 จุดแล้ว จะไปต่อหรือหยุดพัก ส่วนปัจจัยที่จะสนับสนุนให้ดัชนีเดินหน้าต่อไป ตอนนี้เหลือเพียงประการเดียวคือ แรงซื้อจากต่างชาติเท่านั้น และต้องซื้อหนักๆ เพราะปัจจัยบวกด้านอื่น นักลงทุนขานรับไปหมดแล้ว
หุ้นกลุ่มที่จะเป็นตัวนำตลาด หุ้นกลุ่มไหนจะเด่น ก็อยู่ในภาวะที่คาดเดาลำบาก เพราะหมุนเวียนเปลี่ยนกลุ่มเล่นกันแต่ละวัน แต่โดยรวมแล้ว กลุ่มหลักๆ หุ้นขนาดใหญ่ ราคาเริ่มเต็มอิ่มแล้ว ซึมซับข่าวต่างไปหมด และแทบไม่มีช่องที่จะขยับขึ้นไป ขณะที่ราคาถือว่าไม่ถูกแล้ว จะเก็งกำไรระยะสั้น ส่วนต่างราคาก็แคบลง และอาจไม่คุ้มกับความเสี่ยง
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่อาจประเมินความแน่นอนได้ ไม่รู้ว่าหุ้นจะเดินหน้าต่อหรือปรับฐานลงมา นักลงทุนอาจต้องปรับกลยุทธ์ หันมายืนคุมเชิงกันชั่วคราว และเชื่อว่า คงไม่มีใครกล้าบุกไล่ซื้อแล้ว เพราะเริ่มกลัวความสูงกัน
และดัชนีก็ไต่ขึ้นมาสู่ความลาดชัน กำหนดกลยุทธ์ไม่ดี อาจพลาดพลั้งติดดอยได้