ย่ำเท้ารอปัจจัยชี้นำ
บรรยากาศการซื้อขายครึ่งวันแรกไม่คึกคัก เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นย่านเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่เคลื่อนไหวขึ้นลงในกรอบแคบๆ โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ 1162.72 ลดลง2.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย11,000 ล้านบาท
การปรับตัวลงของตลาดหุ้น เกิดจากแรงฉุดของหุ้นบริษัท ปตท. ซึ่งปรับตัวลง 6 บาท ปิดช่วงเช้าที่ระดับ359 บาท เนื่องจากขึ้นเครื่องหมายเอ็กซ์ดี ผู้ซื้อไม่มีสิทธิรับเงินปันผลงวดจากผลประกอบการปี 2554 อัตราเงินปันผลหุ้นละ 7 บาท นอกจากนั้นยังมีหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมายเอ็กซ์ดีวันนี้อีก 10 บริษัท แต่ที่มีผลต่อดัชนีคือหุ้นปตท. ซึ่งการปรับตัวลง 6 บาท คำนวณเท่ากับฉุดดัชนีลงกว่า 2 จุด
การซื้อขายในภาคเช้า ภาพโดยรวมไม่ร้อนแรงมากนัก แต่มีการเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็ก โดยเลือกเป็นรายตัว เช่นหุ้นบริษัทแสนสิริ ซึ่งร้อนแรงมาต่อเนื่อง หลังจากเกิดเหตุการณ์ว.5ชั้น 7 ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น และคาดกันว่า บริษัท แสนศิริจะได้รับอนิสงส์จากโครงการต่างๆมากขึ้น หุ้นบริษัท กฤษดามหานคร ซึ่งกำลังจะออกหุ้นเพิ่มทุน และกระตุ้นให้รายย่อยตามแห่เข้าไปเก็งกำไร แต่ก็เป็นหุ้นอันตรายที่เคยทำให้นักลงทุนรายย่อยบาดเจ็บล้มตายมาหลายรอบแล้วในอดีต
แนวโน้มการซื้อขายหุ้นในภาคบ่าย ภาพโดยรวมอาจไม่แตกต่างจากช่วงเช้ามากนัก โดยดัชนีคงเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ลักษณธย่ำฐาน เว้นจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาหนุน ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดหุ้นพลิกฟื้นขึ้นมาได้ แต่ถ้าเงินฝรั่งไม่เข้า วันนี้น่าจะเป็นวันหยุดพักฐาน ไม่มีอะไรที่ตื่นเต้น เว้นแต่หุ้นรายตัว ซึ่งเจ้ามือกำลังโหมกระพือข่าว กระตุ้นการเก็งกำไร เชิญชวนรายย่อยต่อไป
สำหรับนักลงทุนทั่วไป ถ้าช่วงเช้ายังไม่ทำอะไร ก็ไม่ควรทำอะไร ไม่ซื้อไม่ขาย นอกจากเฝ้ารอประเมินสถานการณ์เท่านั้น เพราะยังไม่เห็นโอกาสดีๆ
ช่วงสั้น หุ้นต้องประเมินวันต่อวัน วันนี้บรรยากาศไม่เอื้ออำนวย เก็บแรงไปลุ้นต่อวันพรุ่งนี้ดีกว่า
บรรยากาศการซื้อขายครึ่งวันแรกไม่คึกคัก เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นย่านเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่เคลื่อนไหวขึ้นลงในกรอบแคบๆ โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ 1162.72 ลดลง2.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย11,000 ล้านบาท
การปรับตัวลงของตลาดหุ้น เกิดจากแรงฉุดของหุ้นบริษัท ปตท. ซึ่งปรับตัวลง 6 บาท ปิดช่วงเช้าที่ระดับ359 บาท เนื่องจากขึ้นเครื่องหมายเอ็กซ์ดี ผู้ซื้อไม่มีสิทธิรับเงินปันผลงวดจากผลประกอบการปี 2554 อัตราเงินปันผลหุ้นละ 7 บาท นอกจากนั้นยังมีหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมายเอ็กซ์ดีวันนี้อีก 10 บริษัท แต่ที่มีผลต่อดัชนีคือหุ้นปตท. ซึ่งการปรับตัวลง 6 บาท คำนวณเท่ากับฉุดดัชนีลงกว่า 2 จุด
การซื้อขายในภาคเช้า ภาพโดยรวมไม่ร้อนแรงมากนัก แต่มีการเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็ก โดยเลือกเป็นรายตัว เช่นหุ้นบริษัทแสนสิริ ซึ่งร้อนแรงมาต่อเนื่อง หลังจากเกิดเหตุการณ์ว.5ชั้น 7 ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น และคาดกันว่า บริษัท แสนศิริจะได้รับอนิสงส์จากโครงการต่างๆมากขึ้น หุ้นบริษัท กฤษดามหานคร ซึ่งกำลังจะออกหุ้นเพิ่มทุน และกระตุ้นให้รายย่อยตามแห่เข้าไปเก็งกำไร แต่ก็เป็นหุ้นอันตรายที่เคยทำให้นักลงทุนรายย่อยบาดเจ็บล้มตายมาหลายรอบแล้วในอดีต
แนวโน้มการซื้อขายหุ้นในภาคบ่าย ภาพโดยรวมอาจไม่แตกต่างจากช่วงเช้ามากนัก โดยดัชนีคงเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ลักษณธย่ำฐาน เว้นจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาหนุน ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดหุ้นพลิกฟื้นขึ้นมาได้ แต่ถ้าเงินฝรั่งไม่เข้า วันนี้น่าจะเป็นวันหยุดพักฐาน ไม่มีอะไรที่ตื่นเต้น เว้นแต่หุ้นรายตัว ซึ่งเจ้ามือกำลังโหมกระพือข่าว กระตุ้นการเก็งกำไร เชิญชวนรายย่อยต่อไป
สำหรับนักลงทุนทั่วไป ถ้าช่วงเช้ายังไม่ทำอะไร ก็ไม่ควรทำอะไร ไม่ซื้อไม่ขาย นอกจากเฝ้ารอประเมินสถานการณ์เท่านั้น เพราะยังไม่เห็นโอกาสดีๆ
ช่วงสั้น หุ้นต้องประเมินวันต่อวัน วันนี้บรรยากาศไม่เอื้ออำนวย เก็บแรงไปลุ้นต่อวันพรุ่งนี้ดีกว่า