xs
xsm
sm
md
lg

SPCG มั่นใจยอดจองหุ้น POควบใบสำคัญแสดงสิทธิทะลุเป้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้บริหาร SPCG ย้ำ เดินหน้าเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนควบใบสำคัญแสดงสิทธิ ตามแผน หลังเป็นเจ้าของรSolar Farm ทั้ง34 โครงการ รายใหญ่ที่สุดในไทย และภูมิภาคอาเซียน พร้อมมั่นใจในความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ด้านแกนนำอันเดอไรท์ฯ ชี้ หุ้นดีโดดเด่น การันตีนักลงทุนไม่มีผิดหวัง

น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการ และกรรมการบริหาร บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCGผู้ประกอบธุรกิจลงทุน และพัฒนาโครงการ Solar Farm ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน ควบใบสำคัญแสดงสิทธิ ระหว่างวันที่ 22 - 24กุมภาพันธ์ 2555 ในราคา 21.00 บาทต่อหุ้น โดยผู้จองซื้อจะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิฟรี ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญที่จองซื้อต่อ 1ใบสำคัญแสดงสิทธิ ทั้งนี้หุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ในวันที่ 1 มีนาคม 2555 และใบสำคัญแสดงสิทธิจะเข้าซื้อขายในวันที่6 มีนาคม 2555

นอกจากนี้SPCGยังคำนึงถึงผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท จึงได้มีการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งหากผู้ถือหุ้นท่านใดสนใจที่จะได้รับสิทธิดังกล่าว สามารถซื้อหุ้นของ SPCGในตลาดได้ โดยวันสุดท้ายที่นักลงทุนจะได้รับสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวคือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 ทั้งนี้ ทางบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนควบใบสำคัญแสดงสิทธิของSPCG ในครั้งนี้ ได้ดำเนินการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์(Book Building) โดยได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุนสถาบัน โดยในราคาเสนอขายที่ 21.00 บาทนั้น มีนักลงทุนสถาบัน แสดงเจตจำนงที่จะซื้อหุ้นของ SPCGมากกว่าถึง 2 เท่า

“SPCGเป็นบริษัทฯที่มีการเติบโตสูง โดย Solar Farm ของบริษัทฯสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้แล้วถึง5 โครงการ และภายในไตรมาสแรกของปี 2555 นี้ บริษัทฯคาดว่าจะสามารถเปิดSolar Farm ได้อีก 4 โครงการตามลำดับ บริษัทฯจะทยอยก่อสร้างโครงการที่เหลือจนครบ34 โครงการภายในปี 2556โดยบริษัทฯจะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมกันทั้งสิ้นถึง 241.6 เมกะวัตต์ ซึ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และ ภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ ทุกโครงการของบริษัทฯยังได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่อัตรา8 บาทต่อหน่วย และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในระยะยาวอีกด้วย”

ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญควบใบสำคัญแสดงสิทธิของSPCGยอมรับว่า SPCG เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง โดย ทุกโครงการของบริษัทนี้ สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและมีอัตรากำไรขั้นต้น และกำไรสุทธิอยู่ในระดับที่สูงมากดังนั้นเมื่อโครงการ Solar Farm ทั้ง 34 โครงการแล้วเสร็จ SPCG จะมีรายได้ และกำไรที่เติบโตอย่างรวดเร็วแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น