ASTV ผู้จัดการรายวัน - ผู้ถือหุ้นโทรีเซนไทยฯ ล้มแผนขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะ ชี้บริษัทยังไม่มีความชัดเจนด้านการลงทุนใหม่เพิ่มเติม พร้อมไม่อนุมัติบริษัทลูก เมอร์เมด ออกวอร์แรนท์ ESOP ให้พนักงานและกรรมการบริษัท รายย่อยค้านขายPP ชี้เอาเปรียบผู้ถือหุ้นเดิม ด้าน “เฉลิมชัย มหากิจศิริ”พร้อมพวกได้ไฟเขียวเข้านั่งบอร์ดช่วยบริหาร มั่นใจดันบริษัทกลับมาคว้ากำไรระดับ 8,000 ล้านเหมือนในอดีตได้ “ประยุทธ”เชื่อคืนทุนใน 3ปี ชี้คนที่ที่ส่งเข้าไปล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเงินและธุรกิจ “ ม.ล.จันทรจุฑา”ยืนยันPPล่มไม่กระทบ ปลื้มบริษัทมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ช่วยเพิ่มความสะดวก
ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีผู้ถือหุ้นของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA) ครั้งที่ 1/2555 เมื่อวานนี้ (31ม.ค.) มีผลสรุป ว่า ในวาระที่ 8 พิจารณาและอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ และการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4 ของบริษัทฯนั้น ผู้ถือหุ้นลงมติไม่อนุมัติแผนออกหุ้นเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายกับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP) ด้วยคะแนนเสียง 69.66%
โดยมีเหตุผลว่า ปัจจุบัน บริษัทยังไม่มีแผนการลงทุนที่ชัดเจน นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นหลายราย เห็นพ้องว่า ไม่ควรเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบPP แต่ควรเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมก่อน
ผู้ถือหุ้นรายย่อย รายหนึ่งกล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยหากต้องขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง ทั้งที่ยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่มเติม อีกทั้งอำนาจในการตั้งราคาก็มาจากคณะกรรมการบริษัท นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นรายเดิมก็ถือหุ้นของบริษัทมานานในต้นทุนที่สูง การที่มายPPให้นักลงทุนรายใหม่ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อเข้ามาก็เริ่มที่จะได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบกำไรสะสม
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังไม่เห็นด้วยกับการให้ บมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ (เมอร์เมด)ออกใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน4,000,000 หน่วยให้กรรมการและพนักงาน (รวมถึงพนักงานซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการ) และบริษัทย่อยของเมอร์เมดภายใต้โครงการเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่พนักงาน (ESOP Scheme)
พร้อมกันนี้ ในวาระที่ 11 พิจารณาและอนุมัติการเลือกตั้งกรรมการ นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสัดส่วน 14% ได้เสนอชื่อตนเอง พร้อมนางสาวอุษณา มหากิจศิริ และ นายโจเซฟ เชีย เข้าเป็นกรรมการบริษัท แทนกรรมการที่หมดวาระ ได้แก่ นายศิริ การเจริญดี,นายวรภัทร โตธนะเกษม และนายอธึก อัศวานนท์
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กรรมการของบริษัทได้ลาออกอีก 2 ราย นายศักดิ์ เอื้อชูเกียรติ และนายสตีเฟน ฟอร์ดแฮม จึงได้ขอเสนอเชื่อ นายสันติ บางอ้อ อดีตรองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์), นาย Ghanin Saad M Asaad Arhamori เข้ามาเป็นกรรมการ พร้อมขอแต่งตั้งกรรมการเพิ่ม 1 ราย คือ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) ทำให้มีกรรมการรวม 11 คน ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติตามที่เสนอ
นายเฉลิมชัย กล่าวถึงสาเหตุที่เสนอชื่อตนเองเข้าเป็นกรรมการบริษัทว่า ส่วนตัวไม่ได้ต้องการเข้าไปปรับเปลี่ยน หรือกำหนดนโยบายของบริษัท แต่ต้องการเข้าไปเพื่อดูแลและรักษาสินทรัพย์ของบริษัทที่มีอยู่ และให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นมากที่สุด เพราะมองว่า TTA เป็นบริษัทที่มีศักยภาพ และจะสามารถกลับมาสร้างกำไรได้ในอนาคต โดยตนจะเข้ามาดูแลในด้านการเงิน การลงทุน เพราะเมื่อประเมินจากปี 2550 บริษัทยังมีกำไรสุทธิสูงถึง 8,000 ล้านบาท แต่ในปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิเหลือแค่กว่า 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเชื่อว่าบริษัทมีโอกาสที่จะกลับไปมีกำไรได้ในระดับเดิม อีกทั้งขอยืนยันว่าตนเองต้องการถือลงทุนระยะยาวกับบริษัท ดังนั้นเมื่อผลประกอบการดีราคาหุ้นของTTA ก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนจะซื้อหุ้นของบริษัทเพิ่มเติมหรือไม่ ยังต้องขอดูก่อนว่าราคามีความเหมาะสมเพียงใด
ด้านนายประยุทธ มหากิจศิริ กล่าวถึงการเข้ามาถือหุ้นใน TTA ว่า เงินที่ลงทุนไปในหุ้น เชื่อว่าจะได้รับการคืนทุนภายใน 3 ปีจากนี้ จากการเติบโตของธุรกิจของบริษัทในอนาคต ซึ่งปีนี้TTA มีแผนต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนคณะกรรมการชาวต่างประเทศที่เสนอชื่อเข้าไปนั้น ด้าน นายโจเซฟ เชีย มีคุณสมบัติที่เหมมาะสมเนื่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและมีความสามารถในการหาแหล่งเงินลงทุน ขณะที่ นาย Ghanin Saad ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญธุรกิจด้านพลังงาน และเป็นผู้ดูแลเงินของกองทุนต่างประเทศ
ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทรีเซนไทยเอเยนต์ซีส์ (TTA) กล่าวว่า แม้จะไม่ได้รับการอนุมัติเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง แต่ทุกอย่างจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เพราะเดิมทีในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีแต่ละครั้ง บริษัทจะขออนุมัติออกหุ้นเพิ่มทุน เพื่อเตรียมไว้สำหรับการลงทุนเสมอ เพียงแต่ไม่เคยนำวิธีดังกล่าวมาดำเนินการ
นอกจากนี้มองว่า หลังจากที่มีกลุ่มมหากิจศิริ และกองทุนต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นบริษัท ช่วยทำให้การประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทสะดวกและง่ายขึ้นกว่าเดิมที่ไม่มีใครเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยคณะกรรมการชุดใหม่นี้จะเริ่มประชุมเพื่อดำเนินงานครั้งในวันที่ 14 ก.พ. ในเรื่องกราอบการดำเนินงานในไตรมาส1/55
ส่วนที่กรณีที่ประชุมไม่อนุมัติให้บมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ (เมอร์เมด)ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อไปก็จะเป็นเรื่องของเมอร์เมด ที่จะไปดำเนินการกับกรรมการและพนังงานของบริษัทเอง ไม่เกี่ยวกับ TTA ซึ่งโดยปกติในธุรกิจแบบนี้ จะมีการออกESOP ให้แก่พนักงานและกรรมการบริษัท เพื่อสร้างแรงจูงใจ
สำหรับการชี้แจงข้อมูลแก่กรรมสอบสวนคดเพิเศษนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าวว่าได้ให้ข้อมูลแก่ดีเอสไออย่างครบถ้วนแล้ว และในวันที่ 27 ก.พ.ก็พร้อมที่จะเข้าไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีผู้ถือหุ้นของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA) ครั้งที่ 1/2555 เมื่อวานนี้ (31ม.ค.) มีผลสรุป ว่า ในวาระที่ 8 พิจารณาและอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ และการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4 ของบริษัทฯนั้น ผู้ถือหุ้นลงมติไม่อนุมัติแผนออกหุ้นเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายกับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP) ด้วยคะแนนเสียง 69.66%
โดยมีเหตุผลว่า ปัจจุบัน บริษัทยังไม่มีแผนการลงทุนที่ชัดเจน นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นหลายราย เห็นพ้องว่า ไม่ควรเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบPP แต่ควรเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมก่อน
ผู้ถือหุ้นรายย่อย รายหนึ่งกล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยหากต้องขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง ทั้งที่ยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่มเติม อีกทั้งอำนาจในการตั้งราคาก็มาจากคณะกรรมการบริษัท นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นรายเดิมก็ถือหุ้นของบริษัทมานานในต้นทุนที่สูง การที่มายPPให้นักลงทุนรายใหม่ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อเข้ามาก็เริ่มที่จะได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบกำไรสะสม
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังไม่เห็นด้วยกับการให้ บมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ (เมอร์เมด)ออกใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน4,000,000 หน่วยให้กรรมการและพนักงาน (รวมถึงพนักงานซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการ) และบริษัทย่อยของเมอร์เมดภายใต้โครงการเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่พนักงาน (ESOP Scheme)
พร้อมกันนี้ ในวาระที่ 11 พิจารณาและอนุมัติการเลือกตั้งกรรมการ นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสัดส่วน 14% ได้เสนอชื่อตนเอง พร้อมนางสาวอุษณา มหากิจศิริ และ นายโจเซฟ เชีย เข้าเป็นกรรมการบริษัท แทนกรรมการที่หมดวาระ ได้แก่ นายศิริ การเจริญดี,นายวรภัทร โตธนะเกษม และนายอธึก อัศวานนท์
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กรรมการของบริษัทได้ลาออกอีก 2 ราย นายศักดิ์ เอื้อชูเกียรติ และนายสตีเฟน ฟอร์ดแฮม จึงได้ขอเสนอเชื่อ นายสันติ บางอ้อ อดีตรองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์), นาย Ghanin Saad M Asaad Arhamori เข้ามาเป็นกรรมการ พร้อมขอแต่งตั้งกรรมการเพิ่ม 1 ราย คือ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) ทำให้มีกรรมการรวม 11 คน ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติตามที่เสนอ
นายเฉลิมชัย กล่าวถึงสาเหตุที่เสนอชื่อตนเองเข้าเป็นกรรมการบริษัทว่า ส่วนตัวไม่ได้ต้องการเข้าไปปรับเปลี่ยน หรือกำหนดนโยบายของบริษัท แต่ต้องการเข้าไปเพื่อดูแลและรักษาสินทรัพย์ของบริษัทที่มีอยู่ และให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นมากที่สุด เพราะมองว่า TTA เป็นบริษัทที่มีศักยภาพ และจะสามารถกลับมาสร้างกำไรได้ในอนาคต โดยตนจะเข้ามาดูแลในด้านการเงิน การลงทุน เพราะเมื่อประเมินจากปี 2550 บริษัทยังมีกำไรสุทธิสูงถึง 8,000 ล้านบาท แต่ในปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิเหลือแค่กว่า 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเชื่อว่าบริษัทมีโอกาสที่จะกลับไปมีกำไรได้ในระดับเดิม อีกทั้งขอยืนยันว่าตนเองต้องการถือลงทุนระยะยาวกับบริษัท ดังนั้นเมื่อผลประกอบการดีราคาหุ้นของTTA ก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนจะซื้อหุ้นของบริษัทเพิ่มเติมหรือไม่ ยังต้องขอดูก่อนว่าราคามีความเหมาะสมเพียงใด
ด้านนายประยุทธ มหากิจศิริ กล่าวถึงการเข้ามาถือหุ้นใน TTA ว่า เงินที่ลงทุนไปในหุ้น เชื่อว่าจะได้รับการคืนทุนภายใน 3 ปีจากนี้ จากการเติบโตของธุรกิจของบริษัทในอนาคต ซึ่งปีนี้TTA มีแผนต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนคณะกรรมการชาวต่างประเทศที่เสนอชื่อเข้าไปนั้น ด้าน นายโจเซฟ เชีย มีคุณสมบัติที่เหมมาะสมเนื่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและมีความสามารถในการหาแหล่งเงินลงทุน ขณะที่ นาย Ghanin Saad ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญธุรกิจด้านพลังงาน และเป็นผู้ดูแลเงินของกองทุนต่างประเทศ
ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทรีเซนไทยเอเยนต์ซีส์ (TTA) กล่าวว่า แม้จะไม่ได้รับการอนุมัติเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง แต่ทุกอย่างจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เพราะเดิมทีในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีแต่ละครั้ง บริษัทจะขออนุมัติออกหุ้นเพิ่มทุน เพื่อเตรียมไว้สำหรับการลงทุนเสมอ เพียงแต่ไม่เคยนำวิธีดังกล่าวมาดำเนินการ
นอกจากนี้มองว่า หลังจากที่มีกลุ่มมหากิจศิริ และกองทุนต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นบริษัท ช่วยทำให้การประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทสะดวกและง่ายขึ้นกว่าเดิมที่ไม่มีใครเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยคณะกรรมการชุดใหม่นี้จะเริ่มประชุมเพื่อดำเนินงานครั้งในวันที่ 14 ก.พ. ในเรื่องกราอบการดำเนินงานในไตรมาส1/55
ส่วนที่กรณีที่ประชุมไม่อนุมัติให้บมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ (เมอร์เมด)ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อไปก็จะเป็นเรื่องของเมอร์เมด ที่จะไปดำเนินการกับกรรมการและพนังงานของบริษัทเอง ไม่เกี่ยวกับ TTA ซึ่งโดยปกติในธุรกิจแบบนี้ จะมีการออกESOP ให้แก่พนักงานและกรรมการบริษัท เพื่อสร้างแรงจูงใจ
สำหรับการชี้แจงข้อมูลแก่กรรมสอบสวนคดเพิเศษนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าวว่าได้ให้ข้อมูลแก่ดีเอสไออย่างครบถ้วนแล้ว และในวันที่ 27 ก.พ.ก็พร้อมที่จะเข้าไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม