ระยองเพียวฯ แจงยังรอความชัดเจนในสัญญาส่งคอนเดนเสทเรสซิดิว จาก ปตท เหตุอีกฝ่ายบอกยกเลิกและจะส่งให้ถึง ม.ค. 55 เท่านั้น ชี้ไม่สมควรและไม่เป็นธรรมเป็นการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต และจงใจให้บริษัทฯ เสียหาย ขณะที่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ ยังไม่ตัดสินชี้ขาด
นางศิรพร กฤษณกาญจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPC แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้ง ที่ 8 /2554 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 54 ว่าบอร์ดแจ้งความคืบหน้าข้อพิพาทสัญญาซื้อขายวัตถุดิบ โดยมีสาระสำคัญดังนี้ ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งเรื่องข้อพิพาทสัญญาซื้อขายวัตถุดิบระหว่างบริษัทฯ กับ บริษัทปตท จำกัด (มหาชน) ต่อตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 52 ตามหนังสือเลขที่RPC/HO-SET/ELCID-015/09 กล่าวคือ บริษัทฯ ได้ทำสัญญาซื้อขายวัตถุดิบคอนเดนเสทเรสซิดิว กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 38 ซึ่งวัตุดิบนี้ผลิตโดย บริษัทปตท. อะโรเมติกส์ และการกลั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันคือบริษัท บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน)
เนื่้องจากสัญญามีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทน ผูกพันระยะยาวแบบไม่กำหนดระยะเวลาสิ้นสุด (Evergreen Basis) โดยช่วงแรกของสัญญามีอายุ 15 ปี และจากนั้นจะเข้าสู่สัญญาช่วงถัด ไปโดยอัตโนมัติโดยไม่กำหนดระยะเวลาสิ้นสุด เมื่อวันที่ 30 กันยายน 52 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือแจ้งขอยกเลิกสัญญาการซื้อขายวัตถุดิบคอนเดนเสทเรสซิดิว โดยจะขอยกเลิกสัญญาเมื่ออายุสัญญาครบ 15 ปีแรก
โดยในวันที่ 31 มกราคม 55 บริษัทฯ ได้คัดค้านการแจ้งยกเลิกสัญญา เนื่องจากคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายมีเจตนารมณ์ในการทำสัญญาร่วมกันให้เป็นสัญญาต่างตอบแทนระยะยาวที่ไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด สัญญาฉบับดังกล่าวข้อ 2.1 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เป็นสัญญาต่างตอบแทนระยะยาวที่ไม่มีกำหนด เวลาสิ้นสุด ( Evergreen Basis ) โดยในสัญญายังระบุให้บริษัทฯต้องสร้างโรงกลั่นขึ้นมาเพื่อรองรับ และแปรรูปวัตถุดิบคอนเดนเสทเรสซิดิว ซึ่งเป็นสเปกวัตถุดิบตามสัญญานี้เท่านั้น
นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังไม่สามารถนำ วัตถุดิบมาขายต่อให้กับบุคคลภายนอกในสภาพเดิมที่รับมาได้ ในสัญญาจึงมีการระบุว่าเป็นสัญญาลักษณะ Evergreen คือไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด สัญญาจะต่อโดยอัตโนมัติเมื่อครบกำหนด 15 ปีแรก เมื่อบริษัทฯ มิได้ต้องการเลิกสัญญา และไม่ได้ปฏิบัติผิดสัญญาแต่อย่างใด การบอกเลิกสัญญาจึงไม่มีเหตุผลอันควร ไม่เป็นธรรม เป็นการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต และจงใจให้บริษัทฯ เสียหาย เนื่องจากการยกเลิกสัญญาจะกระทำได้เมื่อได้รับความยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่าย หรือในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิดสัญญา บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าสัญญาดังกล่าวไม่สามารถยกเลิกได้ ตามความประสงค์ของคู่สัญญาเพียงฝ่ายเดียว หลังจากนั้นได้มีการหารือกับ บริษัท ปตท (จำกัด) มหาชน เพื่อหาข้อสรุปที่ยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้
ดังนั้น เพื่อรักษาสิทธิของผู้ถือหุ้นของบริษัทให้ได้รับการรับรอง และคุ้มครองตามกฎหมาย บริษัทฯ จึงได้ใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด โดยการยื่นเรื่องต่อสำนักอนุญาโตตุลาการ กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 52 เพื่อให้องค์กรกลาง ร่วมพิจารณาหาข้อสรุป ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการหาข้อยุติที่ระบุไว้ในสัญญาขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว และยังอยู่ระหว่างกระบวนการอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 54 บริษัทฯ ได้รับแผนการส่งวัตถุดิบล่วงหน้าจากบริษัทปตท (จำกัด) มหาชน ซึ่งเป็นกระบวนการประสานงานตามธุรกิจปกติระหว่างกัน พบว่าแผนการส่งวัตถุดิบนี้ระบุปริมาณการส่งวัตถุดิบถึงเดือน มกราคม 55 เท่านั้น บริษัทฯ จึงได้มีหนังสือถึง บริษัท ปตท (จำกัด) มหาชน ในวันที่ 8 ธันวาคม 54 เพื่อความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่จนกระทั่งบัดนี้ ยังไม่ได้รับความชัดเจนจาก บริษัท ปตท (จำกัด) มหาชน แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม สัญญาข้อ15.5 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ขณะที่เรื่องยังอยู่ระหว่างกระบวนการอนุญาโตตุลาการ คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามสัญญาต่อไป จนกว่าจะมีผลการพิจารณาชี้ขาดจากคณะอนุญาโตตุลาการ หากมีการเปลี่ยนแปลงทางบริษัทฯจะแจ้งให้ทราบต่อไป
นางศิรพร กฤษณกาญจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPC แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้ง ที่ 8 /2554 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 54 ว่าบอร์ดแจ้งความคืบหน้าข้อพิพาทสัญญาซื้อขายวัตถุดิบ โดยมีสาระสำคัญดังนี้ ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งเรื่องข้อพิพาทสัญญาซื้อขายวัตถุดิบระหว่างบริษัทฯ กับ บริษัทปตท จำกัด (มหาชน) ต่อตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 52 ตามหนังสือเลขที่RPC/HO-SET/ELCID-015/09 กล่าวคือ บริษัทฯ ได้ทำสัญญาซื้อขายวัตถุดิบคอนเดนเสทเรสซิดิว กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 38 ซึ่งวัตุดิบนี้ผลิตโดย บริษัทปตท. อะโรเมติกส์ และการกลั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันคือบริษัท บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน)
เนื่้องจากสัญญามีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทน ผูกพันระยะยาวแบบไม่กำหนดระยะเวลาสิ้นสุด (Evergreen Basis) โดยช่วงแรกของสัญญามีอายุ 15 ปี และจากนั้นจะเข้าสู่สัญญาช่วงถัด ไปโดยอัตโนมัติโดยไม่กำหนดระยะเวลาสิ้นสุด เมื่อวันที่ 30 กันยายน 52 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือแจ้งขอยกเลิกสัญญาการซื้อขายวัตถุดิบคอนเดนเสทเรสซิดิว โดยจะขอยกเลิกสัญญาเมื่ออายุสัญญาครบ 15 ปีแรก
โดยในวันที่ 31 มกราคม 55 บริษัทฯ ได้คัดค้านการแจ้งยกเลิกสัญญา เนื่องจากคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายมีเจตนารมณ์ในการทำสัญญาร่วมกันให้เป็นสัญญาต่างตอบแทนระยะยาวที่ไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด สัญญาฉบับดังกล่าวข้อ 2.1 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เป็นสัญญาต่างตอบแทนระยะยาวที่ไม่มีกำหนด เวลาสิ้นสุด ( Evergreen Basis ) โดยในสัญญายังระบุให้บริษัทฯต้องสร้างโรงกลั่นขึ้นมาเพื่อรองรับ และแปรรูปวัตถุดิบคอนเดนเสทเรสซิดิว ซึ่งเป็นสเปกวัตถุดิบตามสัญญานี้เท่านั้น
นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังไม่สามารถนำ วัตถุดิบมาขายต่อให้กับบุคคลภายนอกในสภาพเดิมที่รับมาได้ ในสัญญาจึงมีการระบุว่าเป็นสัญญาลักษณะ Evergreen คือไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด สัญญาจะต่อโดยอัตโนมัติเมื่อครบกำหนด 15 ปีแรก เมื่อบริษัทฯ มิได้ต้องการเลิกสัญญา และไม่ได้ปฏิบัติผิดสัญญาแต่อย่างใด การบอกเลิกสัญญาจึงไม่มีเหตุผลอันควร ไม่เป็นธรรม เป็นการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต และจงใจให้บริษัทฯ เสียหาย เนื่องจากการยกเลิกสัญญาจะกระทำได้เมื่อได้รับความยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่าย หรือในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิดสัญญา บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าสัญญาดังกล่าวไม่สามารถยกเลิกได้ ตามความประสงค์ของคู่สัญญาเพียงฝ่ายเดียว หลังจากนั้นได้มีการหารือกับ บริษัท ปตท (จำกัด) มหาชน เพื่อหาข้อสรุปที่ยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้
ดังนั้น เพื่อรักษาสิทธิของผู้ถือหุ้นของบริษัทให้ได้รับการรับรอง และคุ้มครองตามกฎหมาย บริษัทฯ จึงได้ใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด โดยการยื่นเรื่องต่อสำนักอนุญาโตตุลาการ กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 52 เพื่อให้องค์กรกลาง ร่วมพิจารณาหาข้อสรุป ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการหาข้อยุติที่ระบุไว้ในสัญญาขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว และยังอยู่ระหว่างกระบวนการอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 54 บริษัทฯ ได้รับแผนการส่งวัตถุดิบล่วงหน้าจากบริษัทปตท (จำกัด) มหาชน ซึ่งเป็นกระบวนการประสานงานตามธุรกิจปกติระหว่างกัน พบว่าแผนการส่งวัตถุดิบนี้ระบุปริมาณการส่งวัตถุดิบถึงเดือน มกราคม 55 เท่านั้น บริษัทฯ จึงได้มีหนังสือถึง บริษัท ปตท (จำกัด) มหาชน ในวันที่ 8 ธันวาคม 54 เพื่อความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่จนกระทั่งบัดนี้ ยังไม่ได้รับความชัดเจนจาก บริษัท ปตท (จำกัด) มหาชน แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม สัญญาข้อ15.5 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ขณะที่เรื่องยังอยู่ระหว่างกระบวนการอนุญาโตตุลาการ คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามสัญญาต่อไป จนกว่าจะมีผลการพิจารณาชี้ขาดจากคณะอนุญาโตตุลาการ หากมีการเปลี่ยนแปลงทางบริษัทฯจะแจ้งให้ทราบต่อไป