xs
xsm
sm
md
lg

VTE-TPA ไตรมาสนี้กำไรกอดคอทะยาน 276% ต้นทุนต่ำ-โกยรายได้อื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วินเทจ วิศวกรรม” ไตรมาสนี้กำไรทะยาน 276% ผลจากรายได้เติบโตจากการรับงานอื้อ สวนทางค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่ำ ด้าน “ไทยโพลีอะคริลิค” กำไรขยับเพิ่ม จากราคาขายโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นและต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่ลดลงจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

นางอรัญญา โนอินทร์ ผู้จัดการฝ่ายบัญชีละการเงิน บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ ว่า บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 6.58 ล้านบาท ซึ่งผลกำไร สุทธิ ไตรมาสที่ 1 ปี 54 สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 53 มีผลกำไร 1.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.83 ล้านบาทคิดเป็น 276% เมื่อเทียบกับผลกำไรสุทธิในงวดเดียวกัน เนื่องจากไตรมาสนี้บริษัทมี รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 85 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 114.86 % เนื่องจากมีการเร่งในการติดตั้งและส่งมอบงาน โครงการใหญ่ 3 โครงการ คือ โครงการ The River, Thru ทองหล่อ และโครงการอาคารวิทยาศาสตร์ 4/2 มหาวิทยาลัยรังสิต รวม 3 โครงการมีการรับรู้รายได้ ในไตรมาสนี้ เท่ากับ 90 ล้านบาท ขณะที่มีอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง เนื่องจากปีก่อน เป็นปีที่บริษัทนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์, ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขาย, ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอื่นๆ สูงกว่าปกติ

นายสุจิตร ศรีเวทย์บดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโพลีอะคริลิค จากัด (มหาชน) หรือ TPA แจ้งผลงานไตรมาสนี้พบว่ามีกำไรสุทธิ 19.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 176.23% ขณะที่มีรายได้รวมทั้งสิ้น 422.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 2% อันเป็นผลจากราคาขายโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นและต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่ลดลงจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยรวมจึงส่งผลต่อกำไรที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

พร้อมกันนี้ TPA ยังแจ้งถึงภาวะที่เกิดภาวะน้ำท่วม ซึ่งบริษัทก็มีสภาพเช่นเดียวกับโรงงานอื่นๆในเขตพื้นที่พุทธมณฑลที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแม้ว่าระดับน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่พุทธมณฑลสาย 4 ไม่รุนแรงเท่ากับพื้นที่พุทธมณฑลสาย 2 สาย 3 และสาย 5 ซึ่งมีระดับน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร โดยน้ำได้ไหลบ่ามาท่วมพื้นที่พุทธมณฑลสาย 4 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 54 ส่งผลให้บริษัทต้องประกาศปิดสายการผลิตตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ตลอดระยะเวลาที่น้ำท่วมรอบบริเวณโรงงานไม่มีรายงานความเสียหายต่อทรัพย์สินที่ใช้ในการผลิตสินค้าแต่อย่างใด ทรัพย์สินทั้งหมดยังคงอยู่ในสภาพดีพร้อมที่จะทำงานได้ตามปกติ จากแนวโน้มที่ดีนี้ ฝ่ายบริหารของบริษัทจึงกำหนดแผนการเปิดสายการผลิตดังเช่นปกติในวันที่ 25 พฤศจิกายน 54 และบริษัทยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น