ผู้ว่า ธปท. ส่งสัญญาณให้ตลาดการเงิน เผยการประชุม กนง. วันที่ 30 พ.ย.นี้ ยังมีพื้นที่เพียงพอให้ลดอัตรา ดบ.นโยบาย โดยการปรับให้อยู่ในระดับ 3.5% ครั้งที่แล้ว ใกล้เคียงกับคาดการ์เงินเฟ้อปี 55 พร้อมเกาะติดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ ความเชื่อมั่นภาคเอกชน และการบริโภคอย่างใกล้ชิด พร้อมเตือน ประธาน กยอ. ล้วงทุนสำรองฯ โดยกู้ตรงจาก ธปท. ไม่สามารถทำได้ เพราะผิด กม.ปี 51 มาตรา 9 แนะออกบอนด์สกุลเงินบาท เพื่อกู้ตรงจาก ปชช. ในตลาดการเงิน
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีพื้นที่ให้ ธปท.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ ที่ผ่านมาได้มีการปรับดอกเบี้ยนโยบายให้ใกล้เคียงอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ของปี 2555 ที่อยู่ในระดับ 3.5% แล้ว และในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 นั้น ขณะนี้ กนง.กำลังติดตามคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ ความเชื่อมั่นภาคเอกชน และการบริโภคอย่างใกล้ชิด
ส่วนกรณีคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคต ( กยอ.) ที่มีนายวีระพงศ์ รางมางกูร เป็นประธาน ต้องการกู้เงินเพื่อนำไปฟื้นฟู เศรษฐกิจหลังน้ำท่วม ก็สามารถออกพันธบัตรกู้จากตลาดการเงินได้โดยตรง โดยเฉพาะการกู้เป็นเงินบาทได้ยิ่งดี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ถูกกว่าการกู้ในรูปเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ เพราะปัจจุบันนี้ อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบลไทยอายุ 10 ปี อยู่ที่ 3.44 % ส่วนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ที่ 4.3 % อัตราดอกเบี้ยการกู้โดยการออกพันธบัตร กู้ในตลาดเงิน น่าจะอยู่ในระดับที่รัฐบาลรับได้
ทั้งนี้ ผู้ว่าการ ธปท. ยืนยันว่า การที่รัฐบาลจะกู้โดยตรงกับ ธปท. คงไม่สามารถทำได้ เพราะขัดกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธปท. ปี 2551 ในมาตรา 9 ที่ห้ามให้กู้โดยตรง ยกเว้นเป็นการดำเนินการในนโยบายการเงิน ฉะนั้น ถ้ารัฐบาลอยากจะกู้เพื่อฟื้นฟูประเทศ ก็สามารถกู้ในตลาดเงินได้เลย เพราะไม่กระทบสภาพคล่องในระบบ โดยสภาพคล่องในปัจจุบันมีเพียงพอที่จะรองรับ และทาง ธปท. สามารถดูแลได้