ธปท.แนะ รบ.ปู วางกรอบงบประมาณใหม่ เน้นการลงทุน และรักษาวินัยการคลังเป็นหลัก พร้อมหารือ 4 เสาหลักด้าน ศก.วันที่ 1 ก.ย. นี้
นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การใช้นโยบายการเงิน และนโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ในเวลาที่เศรษฐกิจแย่นั้น สามารถดำเนินการได้ทุกรัฐบาล แต่จะต้องไม่เรื้อรัง โดยในวันที่ 1 กันยายน 2554 จะมีการหารือร่วมกัน 4 หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อจัดทำงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2555 ซึ่งมองว่า รัฐบาลต้องระมัดระวัง 2 ปัจจัยสำคัญ คือ อย่าลืมงบลงทุน และอย่าลืมวินัยการคลังเป็นหลัก
ทั้งนี้ ธปท.ไม่อยากเห็นรัฐบาลตั้งงบผูกพันงบประมาณ เพื่อดำเนินการมาก จนไม่มีช่องให้จัดทำงบลงทุน เพราะเศรษฐกิจจะโตอย่างยั่งยืน ได้ในระยะยาว รัฐบาลต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการศึกษา สาธารณสุข และผลิตภาพของคน ไม่ใช่เอาเงินมาใส่กระเป๋าประชาชน หรือกดดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน เป็นเพียงการกระตุ้นชั่วคราวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเป็นร้อยละ 3.5 ได้พิจารณาปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลกแล้ว แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอลงจากร้อยละ 2.6 เป็นร้อยละ 1.8 แต่เศรษฐกิจของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชีย ยังมีความสามารถในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทั้งนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง ประกอบกับการส่งออกของไทยได้ปรับตัวกระจายความเสี่ยง โดยลดสัดส่วนการค้ากับสหรัฐฯ และยุโรปลงแล้วในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา จึงมองว่า เศรษฐกิจไทยยังมีศักยภาพขยายตัวได้ต่อเนื่อง
