ตลาดหลักทรัพย์ยอมรับมองผิดเพิ่มเวลาซื้อขายไม่ช่วยเพิ่มวอลุ่มซื้อขายต่างชาติ แต่เพิ่มในส่วนนักลงทุนรายย่อย-นักลงทุนเทรดผ่านระบบดีเอ็มเอ ด้านตลาดเอ็มเอไอ เข้าสู่ปีที่12 มิ.ย.นี้ เชื่อปีนี้วอลุ่มเทรดเกิน1 พันล้านบาทต่อวันสูงกว่าช่วง11 ปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 34 วัน เหตุ บจ.กำไรโต-ปันผลสูง ส่งผลนักลงทุนเข้ามาซื้อขายมากขึ้น
นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การเพิ่มเวลาการซื้อขายหุ้นอีก 1 ชั่วโมงนั้น เดิมมีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น แต่ภายหลังจากได้รับฟังข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์) แล้วเห็นว่าการเพิ่มเวลาซื้อขายไม่ได้ช่วยเพิ่มการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งยอมรับว่ามองเป้าหมายพลาดไป เพราะการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง)นั้นจะมีการส่งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าอยู่แล้ว
ทั้งนี้ กลุ่มที่จะได้ประโยชน์ หรือกลุ่มนักลงทุนที่จะมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นจะเป็นกลุ่มนักลงทุนรายย่อยและกลุ่มผู้ลงทุนที่ซื้อขายผ่านระบบ DMA (Direct Market Access) ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะมีการขยายในกลุ่มนักลงทุนที่จะได้ประโยชน์จากการซื้อขายโดยขณะนี้ก็จะต้องรอผลการหารือของบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่า จะมีความคิดเห็นอย่างไร หลังจากที่ได้มีการประชุมหารือกับทางตลาดหลักทรัพย์แล้วทางโบรกเกอร์ขอกลับไปพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้ง ซึ่งจะมีการแจ้งกับมาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯภายในไตรมาส 3/54
“ถือเป็นเรื่องดีที่ได้มีการพูดคุยกันก่อน แต่ขณะนี้คงต้องรอคำตอบจากโบรกเกอร์ซึ่งจะทราบภายในไตรมาส 3 นี้ คงต้องมาคุยกันว่าเราต้องการขยายนักลงทุนกลุ่มไหน ขณะนี้เห็นว่ากลุ่มที่จะขยายเพิ่มได้จากการขยายเวลาซื้อขายน่าจะเป็นส่วนของนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนที่มีการเทรดผ่านระบบอินเทอร์เน็ต”
นายจงรัก ระรวยทรง กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า ทางสมาชิกคงจะมีการหารือเพื่อตัดสินใจเลือกระหว่างว่าจะให้มีการขยายเวลา หรือไม่มีขยายเวลา เพราะในส่วนของช่วงเวลาได้ข้อสรุปแล้วคือเพิ่มในส่วนการซื้อขายภาคเช้าและบ่าย โดยขณะนี้มีทั้งโบรกเกอร์ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการขยายเวลา ว่าการเพิ่มเวลาซื้อขายจะคุ้มหรือไม่
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) กล่าวว่า ในปีนี้ตลาดเอ็มเอไอ จะเข้าสู่ปีที่ 12 ในการเปิดซื้อขาย ซึ่งนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ มากขึ้น ซึ่งเห็นจำนวนวันที่มีมูลค่าการซื้อขายต่อการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิน1,000 ล้านบาทต่อวัน จำนวน 16-17 วัน เชื่อว่า แนวโน้มก็เชื่อว่าจำนวนวันที่มีการวอลุ่มเกิน1 พันล้านบาท มากขึ้นกว่าในช่วงที่เปิดซื้อขายเอ็มเอไอ จนถึงปีก่อนที่มีจำนวนวันที่มีมูลค่าซื้อขายจำนวน 34 วัน
“21 มิถุนายนนี้ ตลาดเอ็มเอไอ จะเข้าสู่ปีที่12 ในการเปิดซื้อขาย ซึ่งในช่วง 11 ปีที่ผ่านมาวันที่มีวอลุ่มซื้อขายเกิน 1 พันล้านบาทต่อวัน มีจำนวน 34 วัน แต่ปีนี้ยังไม่ครบปีมีวันที่เทรดเกิน1 พันล้านบาทต่อวัน 16-17 วัน ซึ่งเชื่อว่าปีนี้ปีเดียวจะมีวอลุ่มซื้อขายเกิน1 พันล้านบาทต่อวันมากกว่า 11 ปีที่ผ่านมา เพราะ บริษัทในตลาดเอ็มเอไอ นั้นมีผลประกอบการที่ดี กำไรโต82% ปันผลสูง ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายมากขึ้น” นายชนิตร กล่าว
นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การเพิ่มเวลาการซื้อขายหุ้นอีก 1 ชั่วโมงนั้น เดิมมีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น แต่ภายหลังจากได้รับฟังข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์) แล้วเห็นว่าการเพิ่มเวลาซื้อขายไม่ได้ช่วยเพิ่มการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งยอมรับว่ามองเป้าหมายพลาดไป เพราะการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง)นั้นจะมีการส่งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าอยู่แล้ว
ทั้งนี้ กลุ่มที่จะได้ประโยชน์ หรือกลุ่มนักลงทุนที่จะมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นจะเป็นกลุ่มนักลงทุนรายย่อยและกลุ่มผู้ลงทุนที่ซื้อขายผ่านระบบ DMA (Direct Market Access) ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะมีการขยายในกลุ่มนักลงทุนที่จะได้ประโยชน์จากการซื้อขายโดยขณะนี้ก็จะต้องรอผลการหารือของบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่า จะมีความคิดเห็นอย่างไร หลังจากที่ได้มีการประชุมหารือกับทางตลาดหลักทรัพย์แล้วทางโบรกเกอร์ขอกลับไปพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้ง ซึ่งจะมีการแจ้งกับมาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯภายในไตรมาส 3/54
“ถือเป็นเรื่องดีที่ได้มีการพูดคุยกันก่อน แต่ขณะนี้คงต้องรอคำตอบจากโบรกเกอร์ซึ่งจะทราบภายในไตรมาส 3 นี้ คงต้องมาคุยกันว่าเราต้องการขยายนักลงทุนกลุ่มไหน ขณะนี้เห็นว่ากลุ่มที่จะขยายเพิ่มได้จากการขยายเวลาซื้อขายน่าจะเป็นส่วนของนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนที่มีการเทรดผ่านระบบอินเทอร์เน็ต”
นายจงรัก ระรวยทรง กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า ทางสมาชิกคงจะมีการหารือเพื่อตัดสินใจเลือกระหว่างว่าจะให้มีการขยายเวลา หรือไม่มีขยายเวลา เพราะในส่วนของช่วงเวลาได้ข้อสรุปแล้วคือเพิ่มในส่วนการซื้อขายภาคเช้าและบ่าย โดยขณะนี้มีทั้งโบรกเกอร์ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการขยายเวลา ว่าการเพิ่มเวลาซื้อขายจะคุ้มหรือไม่
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) กล่าวว่า ในปีนี้ตลาดเอ็มเอไอ จะเข้าสู่ปีที่ 12 ในการเปิดซื้อขาย ซึ่งนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ มากขึ้น ซึ่งเห็นจำนวนวันที่มีมูลค่าการซื้อขายต่อการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิน1,000 ล้านบาทต่อวัน จำนวน 16-17 วัน เชื่อว่า แนวโน้มก็เชื่อว่าจำนวนวันที่มีการวอลุ่มเกิน1 พันล้านบาท มากขึ้นกว่าในช่วงที่เปิดซื้อขายเอ็มเอไอ จนถึงปีก่อนที่มีจำนวนวันที่มีมูลค่าซื้อขายจำนวน 34 วัน
“21 มิถุนายนนี้ ตลาดเอ็มเอไอ จะเข้าสู่ปีที่12 ในการเปิดซื้อขาย ซึ่งในช่วง 11 ปีที่ผ่านมาวันที่มีวอลุ่มซื้อขายเกิน 1 พันล้านบาทต่อวัน มีจำนวน 34 วัน แต่ปีนี้ยังไม่ครบปีมีวันที่เทรดเกิน1 พันล้านบาทต่อวัน 16-17 วัน ซึ่งเชื่อว่าปีนี้ปีเดียวจะมีวอลุ่มซื้อขายเกิน1 พันล้านบาทต่อวันมากกว่า 11 ปีที่ผ่านมา เพราะ บริษัทในตลาดเอ็มเอไอ นั้นมีผลประกอบการที่ดี กำไรโต82% ปันผลสูง ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายมากขึ้น” นายชนิตร กล่าว