ไทยพาณิชย์จบเคส SICCO ยื่นทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ให้ราคาหุ้นละ 6.89 บาท ก่อนนำออกจากตลาดฯ-คืนใบอนุญาตแบงก์ชาติ ระบุพยายามหาหนทางขายหุ้นแล้วแต่ไม่สำเร็จ รอบอร์ด-ผู้ถือหุ้นอนุมัติ
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ธนาคารเข้าดำเนินการขอทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเงินทุน สินอุตสาหกรรม จำกัด (มหาช)(SICCO) เป็นการทั่วไปเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ SICCO จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดฯ ที่ราคาเสนอซื้อเท่ากับ 6.89 บาท ต่อหุ้น หรือราคาที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ที่เกี่ยวข้อง โดยภายหลังจากการเพิกถอนหลักทรัพย์ SICCOจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดฯ แล้วธนาคารจะดำเนินการเลิกกิจการและคืนใบอนุญาตการประกอบกิจการธุรกิจเงินทุนของ SICCO ให้กับทางการต่อไป
โดยธนาคารจะกำหนดมาตรการและแนวทางที่จะช่วยเหลือลูกค้าผู้ที่มีเงินฝากกับ SICCO ไม่ให้ได้รับความเสียหาย และจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการดูแลพนักงานตลอดจนผู้ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับ SICCO จากผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องดำเนินการดังกล่าวข้างต้นว่า จากนโยบายการเปิดเสรีทางการเงินและการอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถทำธุรกิจได้ครอบคลุมหลากหลายมากขึ้น รวมถึงสภาวะการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการประกอบธุรกิจของ SICCO ต่อไปในอนาคตอย่างมากการที่ธนาคารจะถือหุ้นใน SICCO ต่อไปอีกก็จะไม่เกิดประโยชน์แก่ธุรกิจของธนาคาร
นอกจากนี้ นโยบายสถาบันการเงินหนึ่งรูปแบบภายใต้แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยก็กำหนดให้แต่ละกลุ่มธุรกิจทางการเงินมีสถาบันการเงินที่รับเงินฝากจากประชาชนเพียง 1 รูปแบบต่อแห่ง (One presence policy)ก็เป็นข้อจำกัดด้วย
ก่อนหน้านี้ ธนาคารจึงได้ดำเนินการเพื่อจำหน่ายการถือหุ้นใน SICCO ของธนาคารโดยทางธนาคารได้พยายามหานักลงทุนที่สนใจเข้าลงทุนใน SICCO เป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว และในความพยายามครั้งล่าสุด ธนาคารได้มีการเปิดประมูลหุ้น SICCO ในส่วนที่ธนาคารถืออยู่เป็นการทั่วไป ก็ปรากฏว่าไม่มีนักลงทุนรายใดยื่นข้อเสนอซื้อเบื้องต้นมายังธนาคารเพื่อพิจารณาอันเป็นผลให้กระบวนการเปิดประมูลขายหุ้น SICCO ที่ถือโดยธนาคารเป็นการทั่วไปได้สิ้นสุดลง
อย่างไรก็ดี การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ SICCO เป็นการทั่วไป เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ในครั้งนี้นั้น ธนาคารจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคาร และที่ประชุมผู้ถือหุ้นทั้งของธนาคาร SICCO และจะต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อซึ่งรวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดฯด้วย
นอกจากนี้ ตามหลักเกณฑ์ของก.ล.ต. หากธนาคารมีการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของ SICCO และมีสิทธิออกเสียงตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป ธนาคารจะมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) (SSEC) ด้วย (หลักเกณฑ์ Chain Principle) ดังนั้น หากธนาคารมีการได้หุ้นของ SICCO จากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ SICCO จนทำให้ธนาคารถือหุ้นและมีสิทธิออกเสียงจนถึงร้อยละ 50 ธนาคารจะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ SSEC ซึ่งจะดำเนินการภายหลังจากที่การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ SICCO เป็นการทั่วไปโดยธนาคารได้บรรลุผลสำเร็จแล้ว
อนึ่ง ปัจจุบันธนาคารถือหุ้นของ SICCO อยู่ในจำนวน 230,883,188 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 38.65
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ธนาคารเข้าดำเนินการขอทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเงินทุน สินอุตสาหกรรม จำกัด (มหาช)(SICCO) เป็นการทั่วไปเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ SICCO จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดฯ ที่ราคาเสนอซื้อเท่ากับ 6.89 บาท ต่อหุ้น หรือราคาที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ที่เกี่ยวข้อง โดยภายหลังจากการเพิกถอนหลักทรัพย์ SICCOจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดฯ แล้วธนาคารจะดำเนินการเลิกกิจการและคืนใบอนุญาตการประกอบกิจการธุรกิจเงินทุนของ SICCO ให้กับทางการต่อไป
โดยธนาคารจะกำหนดมาตรการและแนวทางที่จะช่วยเหลือลูกค้าผู้ที่มีเงินฝากกับ SICCO ไม่ให้ได้รับความเสียหาย และจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการดูแลพนักงานตลอดจนผู้ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับ SICCO จากผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องดำเนินการดังกล่าวข้างต้นว่า จากนโยบายการเปิดเสรีทางการเงินและการอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถทำธุรกิจได้ครอบคลุมหลากหลายมากขึ้น รวมถึงสภาวะการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการประกอบธุรกิจของ SICCO ต่อไปในอนาคตอย่างมากการที่ธนาคารจะถือหุ้นใน SICCO ต่อไปอีกก็จะไม่เกิดประโยชน์แก่ธุรกิจของธนาคาร
นอกจากนี้ นโยบายสถาบันการเงินหนึ่งรูปแบบภายใต้แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยก็กำหนดให้แต่ละกลุ่มธุรกิจทางการเงินมีสถาบันการเงินที่รับเงินฝากจากประชาชนเพียง 1 รูปแบบต่อแห่ง (One presence policy)ก็เป็นข้อจำกัดด้วย
ก่อนหน้านี้ ธนาคารจึงได้ดำเนินการเพื่อจำหน่ายการถือหุ้นใน SICCO ของธนาคารโดยทางธนาคารได้พยายามหานักลงทุนที่สนใจเข้าลงทุนใน SICCO เป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว และในความพยายามครั้งล่าสุด ธนาคารได้มีการเปิดประมูลหุ้น SICCO ในส่วนที่ธนาคารถืออยู่เป็นการทั่วไป ก็ปรากฏว่าไม่มีนักลงทุนรายใดยื่นข้อเสนอซื้อเบื้องต้นมายังธนาคารเพื่อพิจารณาอันเป็นผลให้กระบวนการเปิดประมูลขายหุ้น SICCO ที่ถือโดยธนาคารเป็นการทั่วไปได้สิ้นสุดลง
อย่างไรก็ดี การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ SICCO เป็นการทั่วไป เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ในครั้งนี้นั้น ธนาคารจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคาร และที่ประชุมผู้ถือหุ้นทั้งของธนาคาร SICCO และจะต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อซึ่งรวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดฯด้วย
นอกจากนี้ ตามหลักเกณฑ์ของก.ล.ต. หากธนาคารมีการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของ SICCO และมีสิทธิออกเสียงตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป ธนาคารจะมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) (SSEC) ด้วย (หลักเกณฑ์ Chain Principle) ดังนั้น หากธนาคารมีการได้หุ้นของ SICCO จากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ SICCO จนทำให้ธนาคารถือหุ้นและมีสิทธิออกเสียงจนถึงร้อยละ 50 ธนาคารจะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ SSEC ซึ่งจะดำเนินการภายหลังจากที่การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ SICCO เป็นการทั่วไปโดยธนาคารได้บรรลุผลสำเร็จแล้ว
อนึ่ง ปัจจุบันธนาคารถือหุ้นของ SICCO อยู่ในจำนวน 230,883,188 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 38.65